ในการวางแผนตกแต่งบ้าน สิ่งหนึ่งที่ทำให้หลายคนต้องใช้เวลาในการคิดตัดสินใจพอสมควรย่อมหนีไม่พ้นเรื่องการเลือกว่าจะใช้เฟอร์นิเจอร์แบบลอยตัว หรือแบบบิวท์อิน เพราะเฟอร์นิเจอร์ทั้งสองแบบถือว่ามีข้อดี ข้อเสียที่แตกต่างกันค่อนข้างชัดเจน เช่นเดียวกับเรื่องความเหมาะสมของพื้นที่ใช้งาน และงบประมาณที่ใช้ อีกทั้งการจะเลือกใช้ทั้งแบบลอยตัว หรือแบบบิวท์อินต่างก็สามารถปรับใช้ให้แมตช์กับสไตล์การตกแต่งได้หลากหลายสไตล์เช่นกัน ทำให้การตัดสินใจเลือกเฟอร์นิเจอร์ทั้งสองแบบยิ่งเป็นเรื่องยาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่อาจจะยังไม่มีแพลนที่ชัดเจนทั้งในส่วนของงบประมาณ และสเปคฟังก์ชั่นการใช้งานที่ต้องการในพื้นที่แต่ละส่วนของบ้าน ดังนั้นเนื้อหาในบทความนี้เราจึงจะมาว่ากันถึงข้อควรคำนึงต่างๆ ในการตัดสินเลือกว่าควรเลือกข้าวของเครื่องใช้ในการตกแต่งบ้านแบบลอยตัว หรือบิวท์อินต่อเติมภายในแบบตายตัวดี เพื่อให้บ้านออกมาสวยงามและได้ฟังก์ชั่นที่ตรงกับความต้องการมากที่สุด
ความยืดหยุ่นของงบประมาณ ในการตัดสินใจเลือกว่าจะใช้เฟอร์นิเจอร์แบบลอยตัว หรือแบบบิวท์อิน สิ่งสำคัญลำดับแรกๆ ที่ควรคำนึงถึงก็คือเรื่องงบประมาณ ซึ่งโดยทั่วไปแล้วการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์แบบลอยตัวจะสามารถคุมงบได้ดีกว่า เพราะมีตัวเลือกในแต่ละช่วงราคาค่อนข้างมาก และยืดหยุ่นได้ตามแบรนด์ เรียกว่าสามารถปรับงบหน้างานได้จากการเปรียบเทียบราคาของแต่ละแบรนด์ แต่ละรุ่น ขณะที่แบบบิวท์อินนั้น งบประมาณที่ต้องใช้นั้นค่อนข้างตายตัวตามวัสดุ และฟังก์ชั่นที่ต้องการ อาจจะมีความแตกต่างกันก็ตรงราคาค่าแรง หรือค่าบริการของบริษัทที่รับทำอย่งเช่น ชั้นวางของติดผนัง ชั้นวางหนังสือ ชั้นวางทีวี เป็นต้น อย่างไรก็ตามในการเลือกบริษัทรับบิวท์อินต่อเติมภายในนั้นไม่สามารถตัดสินใจเลือกจากปัจจัยด้านราคาเป็นหลักได้ เนื่องจากคุณภาพ ความละเอียดในขั้นตอนการทำงานถือเป็นสิ่งที่สำคัญสุด ซึ่งมีผลต่อความสวยงามและฟังก์ชั่นใช้งานของเฟอร์นิเจอร์ชิ้นต่างๆ ที่จะออกมา กล่าวสรุปได้ว่าในการเลือกแบบบิวท์อิน จำเป็นต้องมีการแพลนงบประมาณของเฟอร์นิเจอร์ชิ้นต่างๆ ให้ดีกว่าแบบลอยตัว เพราะปรับเปลี่ยนหน้างานได้ยาก โดยควรศึกษาราคาวัสดุ และค่าบริการรับเหมาต่อเติมจากบริษัทรับบิวท์อินเจ้าต่างๆ เพื่อให้ทราบงบเบื้องต้นก่อนตัดสินใจลงมือตกแต่ง
คำนึงถึงการปรับเปลี่ยนในอนาคต นอกจากเรื่องงบประมาณแล้ว สิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึงต่อมาในการเลือกเฟอร์นิจอร์ทั้งสองแบบดังกล่าวก็คือ เรื่องความยืดหยุ่นในการปรับเปลี่ยนในอนาคตนั่นเอง โดยการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์แบบบิวท์อินนั้น เหมาะสำหรับบ้านที่มีแพลนการตกแต่งที่ชัดเจน มีการกำหนดธีม หรือโทนของบ้านไว้ล่วงหน้าอยู่แล้ว ประเมินความเหมาะสมของพื้นที่ใช้งานส่วนต่างๆ ของบ้านแล้ว(เลือกพื้นที่สำหรับฟังก์ชั่นใช้งานส่วนต่างๆ ได้เหมาะสมที่สุดแล้ว) เพราะการบิวท์อินจะทำให้การปรับเปลี่ยน ดัดแปลงฟังก์ชั่นต่างๆ ในอนาคตทำได้ยาก ขณะที่เฟอร์นิเจอร์แบบลอยตัวนั้นค่อนข้างมีอิสระในการปรับเปลี่ยน หรือต่อเติมในอนาคต มีความยืดหยุ่นในการเคลื่อนย้าย เรียกว่าเหมาะสำหรับบ้านที่ยังไม่มีแพลนตกแต่งที่ชัดเจน ต้องการทดลองความเหมาะสมของฟังก์ชั่นใช้งานจริงในพื้นที่ส่วนต่างๆ ของบ้าน
พื้นที่ใช้สอยที่ต้องการ สิ่งนึงที่ค่อนข้างแตกต่างกันชัดเจนสำหรับเฟอร์นิเจอร์แบบลอยตัว กับแบบบิวท์อินก็คือพื้นที่ใช้สอยจริงของเฟอร์นิเจอร์ชิ้นนั้นๆ ซึ่งแน่นอนว่าแบบบิวท์อินจะมีพื้นที่ใช้สอยจริงมากกว่า เพราะสามารถติดตั้ง หรือต่อเติมได้เต็มพื้นที่บริเวณต่างๆ ของบ้าน ขณะที่เฟอร์นิเจอร์แบบลอยตัวนั้น พื้นที่ใช้สอยจะถูกจำกัดตามขนาด รูปทรงที่ทางบริษัทผู้ผลิตออกแบบมา ดังนั้นในการตัดสินใจเลือกจึงควรคำนึงถึงพื้นที่ใช้สอยที่ต้องการร่วมด้วย โดยอาจกะประมาณจากสิ่งของที่ต้องการนำมาจัดวางบนเฟอร์นิเจอร์ชิ้นนั้นๆ เพื่อให้ทราบขนาดพื้นที่ใช้สอยจริงโดยประมาณ