งานกระจกเป็นสิ่งที่เราสามารถพบเห็นได้ตามบ้าน อาคาร สำนักงานส่วนใหญ่นิยมนำมาใช้ตกแต่งเพื่อเป็นาส่วนประกอบและสร้างความสวยงามของบ้าน อาคารและสำนักงาน ให้มีความทันสมัย ปลอดโปร่ง โดยงานกระจกที่มักพบเห็นได้บ่อย ๆ มักจะเป็น งานกระจกรูบแบบหน้าต่าง (หน้าต่างกระจก) งานกระจกรูปแบบผนัง (ผนังกระจก) งานกระจกฉากกั้น (ฉากกั้นกระจก) จุดเด่นของงานกระจกนั้นก็คือ มีความสวยงาม สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์หรือผู้คนที่เดินผ่านไปมาได้ รับแสงสว่างจากภายนอกได้เป็นอย่างดี ช่วยในเรื่องของการประหยัดพลังงาน และนอกจากนี้แล้ว กระจกนำมาใช้ในงานกระจกรูปแบบต่าง ๆ นั้นยังมีให้เลือกอีกหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น กระจกกันความร้อน กระจกกันเสียงจากภายในสู่ภายนอก กระจกนิรภัย เป็นต้น แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่ากระจกที่เราเลือกใช้นั้นจะเป็นกระจกที่ถูกต้องเหมาะสมกับการใช้งานหรือไม่ หรือผู้รับเหมาแอบนำกระจกที่ไม่ได้คุณภาพมาหลอกเราหรือเปล่า วันนี้เราจึงมีวิธีการตรวจสอบงานกระจกที่ทุกคนสามารถทำได้อย่างง่ายดาย เพื่อป้องกันการเลือกใช้กระจกที่ผิดประเภท และป้องกันปัญหากับผู้รับเหมาในภายหลังจากการติดตั้งงานกระจกไปแล้ว หากผู้รับเหมางานกระจกเกิดใช้กระจกผิดประเภท มีรอยขีดข่วนแล้วล่ะก็คงไม่เป็นผลดีต่อเจ้าของบ้าน อาคาร และสำนักงานอย่างแน่นอน
1.ตรวจสอบกระจกที่เลือกใช้
สิ่งแรกที่ต้องสำหรับงานกระจกเลยนั่นก็คือ กระจกประเภทไหนเหมาะสมสำหรับใช้งานอะไร ตัวอย่างเช้า กระจกใสธรรมดา ที่แสงและความร้อนจากดวงอาทิตย์สามารถทะลุผ่านได้นั้น มักนิยมใช้กับงานกระจกในรูปแบบตู้โชว์ ที่ต้องการโชว์สิ่งของภายในตู้อย่างชัดเจน ส่วนงานกระจกอลูมิเนียมสำหรับประตู หน้าต่าง บานเลื่อนนั้น มักนิยมใช้กระจกสีเขียวตัดแสง กระจกสีเทาตัดแสง กระจกสีชาตัดแสง เพราะกระจกประเภทต่าง ๆ เหล่านี้สามารถตัดแสงจากดวงอาทิตย์และสามารถป้องกันรัวสี UV จากภายนอกที่จ้องจะทำร้ายผิวของเราได้นั่นเอง ส่วนกระจกนิรภัยนั้นเรามักจะเห็นตามอาคารสำนักงานขนาดใหญ่ที่มีการป้องกันการโจรกรรม หรือโครงสร้างของอาคารขนาดใหญ่ที่มีลมมากระทบอย่างรุนแรงตลอดทั้งวัน เพราะกระจกนิรภัยนั้นมีความหนาและทนทานเป็นพิเศษ เมื่อเกิดความเสียหายแล้วกระจกจะแตกเป็นเม็ดเล็ก ๆ ทำให้ไม่เป็นอันตรายต่อผู้คนที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงนั่นเอง
2.ตรวจสอบความถูกต้องของกระจกที่หน้างาน
เมื่อผู้รับเหมานำกระจกมาติดตั้ง เราควรตรวจสอบให้แน่ใจก่อนว่ากระจกที่ผู้รับเหมานำมาใช้ในงานกระจกนั้นถูกต้องเหมาะสมหรือไม่ โดยสามารถดุได้จาก คุณภาพ สีสัน ความหนา ขนาด และคุณภาพของกระจก ถูกต้องตรงตามสเปคที่ได้ตกลงกันเอาไว้หรือไม่ ตรวจสอบให้แน่ใจอย่างละเอียด ตรวจดูความสมบูรณ์ของกระจก ทั้งรอยขีดข่วน รอยตำหนิ รอยแตกร้าว รอบเปื้อน คราบปูนต่าง ๆ ว่ามีหรือไม่ หากพบควรรีบแจ้งกับทางผู้รับเหมาหรือบริษัททันที
3.ตรวจพื้นที่ก่อนติดตั้งงานจริง
ก่อนทำการติดตั้งงานกระจก เราควรตรวจสอบการจัดวางและการจัดเก็บให้เรียบร้อยว่ามีความปลอดภัยหรือไม่ มีพื้นที่เพียงพอและเหมาะสมสำหรับการตัดกระจกหรือเปล่าถ้าหากมีเฟอร์นิเจอร์ไม่ว่าจะเป็น โซฟา โต๊ะทำงาน ตู้เก็บของ ฯลฯ หลงเหลืออยู่ภายในพื้นที่อาจทำให้เกิดความชำรุดเสียหายได้ หากต้องมีการตัดกระจก กระจกบางชนิดอาจมีการตัดมาเรียบร้อยแล้ว มีเครื่องมือในการขนย้ายอย่างไร เพื่อป้องกันอันตรายต่อช่างที่มาติดตั้งงานกระจกและป้องกันความเสียหายที่เกิดขึ้น
4. ตรวจสอบงานหลังติดตั้งงานกระจก
ตรวจสอบความเรียบร้อยในการติดตั้งของงานกระจกในรูปแบบต่าง ๆ หากเป็นงานกระจกหน้าต่างระเบียง ควรมีอุปกรณ์ยึดกระจกที่แข็งแรง แน่นหนา ระดับความสูงเหมาะสม มีการซีลรอบ ๆ กระจกอย่างละเอียดเรียบร้อยหรือไม่ และงานกระจกจะต้องไม่มีรอยแตกร้าวจากการติดตั้ง หากเป็นงานกระจกประตูหรือหน้าต่างอลูมิเนียม ควรตรวจดูรอบ ๆ ขอบกระจกว่ามีการซีลรอบด้านด้วยยางกันซึมหรือซิลิโคนหรือไม่ ตรวจสอบรูกันน้ำรั่วซึมให้ดี เรื่องนี้ถือเป็นปัญหาอย่างมากที่หลายบ้านพบเจอ ในยามที่อากาศปกติไม่มีปัญหาอะไร แต่ในยามที่ฝนฟ้าคะนองเมื่อไหร่จากบ้านสวยงามต้องหากะละมังมารองน้ำฝนแทบไม่ทันกันเลยทีเดียว ฉะนั้นแล้วควรตรวจสอบจุดนี้ให้ดีโดยการฉีดน้ำทดสอบดูว่ามีน้ำรั่วซึมจุดไหนหรือไม่หากผมเจอรีบแจ้งผู้รับเหมาหรือบริษัทรับเหมางานกระจกทันที