การดูแลรักษาเฟอร์นิเจอร์อย่างถูกวิธีเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะไม่เพียงแต่ช่วยยืดอายุการใช้งาน แต่ยังคงความสวยงามและคุณค่าของชิ้นงานได้อย่างยาวนาน หลายคนมักเจอกับปัญหาเฟอร์นิเจอร์เกิดความเสียหายเพราะการทำความสะอาดที่ไม่ถูกวิธี โดยเฉพาะเมื่อวัสดุที่นำมาผลิตเฟอร์นิเจอร์นั้นมีความหลากหลาย การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์และวิธีการดูแลที่เหมาะสมกับวัสดุแต่ละประเภทจึงเป็นสิ่งที่ควรให้ความใส่ใจ
เฟอร์นิเจอร์ไม้ถือเป็นวัสดุยอดนิยมที่ใช้ตกแต่งบ้านและสำนักงานเช่น โต๊ะทำงานหรือเก้าอี้ เนื่องจากให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติ และมีลวดลายเฉพาะตัว วิธีดูแลทำความสะอาดเฟอร์นิเจอร์ไม้ควรใช้ผ้าชุบน้ำหมาด ๆ เช็ดฝุ่นออกเบา ๆ ตามแนวเสี้ยนไม้ หลีกเลี่ยงการใช้น้ำยาทำความสะอาดที่มีฤทธิ์กัดกร่อน หรือใช้ผ้าชุบน้ำจนเปียกเกินไป เพราะความชื้นสามารถซึมเข้าเนื้อไม้และทำให้บวม หรือเกิดเชื้อราได้ ควรมีการลงน้ำยาเคลือบเงา หรือ แว็กซ์โดยเฉพาะอย่างน้อยปีละ 1-2 ครั้ง เพื่อรักษาความเงางามและป้องกันเนื้อไม้จากการแห้งกรอบเมื่อโดนแสงแดดหรืออากาศแห้ง
สำหรับเฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากหนัง ไม่ว่าจะเป็นหนังแท้หรือหนังสังเคราะห์ เช่น โซฟา การดูแลทำความสะอาดต้องระมัดระวังไม่ให้เนื้อหนังเกิดความแห้งกรอบหรือแตกลาย ควรใช้ผ้านุ่มแห้งเช็ดฝุ่นออกก่อน จากนั้นใช้ผ้าชุบน้ำสบู่อ่อน ๆ หรือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดหนังโดยเฉพาะ เช็ดให้ทั่วบริเวณแล้วตามด้วยผ้าแห้งอีกครั้ง การใช้ครีมบำรุงหนังเป็นประจำจะช่วยรักษาความยืดหยุ่นและสีของเฟอร์นิเจอร์ให้ดูใหม่อยู่เสมอ หลีกเลี่ยงการวางในจุดที่มีแดดส่องหรือใกล้แหล่งความร้อน เพราะจะทำให้หนังแห้งเร็วและเสียรูปทรงได้ง่าย
ในกรณีที่เฟอร์นิเจอร์ทำจากผ้า เช่น โซฟาผ้าหรือเก้าอี้บุผ้า การทำความสะอาดจะต้องระวังไม่ให้คราบฝังแน่นหรือลุกลาม ควรดูดฝุ่นสัปดาห์ละครั้งเพื่อกำจัดฝุ่นและเส้นผมที่สะสม หากเกิดคราบเปื้อนควรซับออกทันทีด้วยผ้าขาวสะอาด ไม่ควรถูแรงเพราะจะทำให้คราบซึมลึกลงใยผ้า สำหรับผ้าที่ถอดซักได้ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้ผลิตอย่างเคร่งครัด และควรหลีกเลี่ยงการใช้เครื่องอบแห้งที่อุณหภูมิสูง หากไม่สามารถถอดซักได้ ควรใช้น้ำยาทำความสะอาดเฉพาะจุดและผ้าชุบน้ำหมาด ๆ เช็ดอย่างเบามือ
เฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากโลหะอย่างเหล็ก สแตนเลส หรืออะลูมิเนียม มักจะได้รับความนิยมในสไตล์โมเดิร์น เนื่องจากให้ภาพลักษณ์ทันสมัย แข็งแรง และทนทาน การดูแลทำความสะอาดสามารถใช้ผ้าชุบน้ำสบู่อ่อนเช็ดคราบฝุ่นและคราบมันได้ดี แต่ควรเช็ดให้แห้งสนิทในทุกครั้งหลังทำความสะอาด เพื่อป้องกันการเกิดสนิม โดยเฉพาะหากเป็นเหล็กที่ไม่เคลือบสารกันสนิม ควรหมั่นตรวจสอบจุดเชื่อมหรือขอบมุมต่าง ๆ หากพบว่ามีคราบสนิม ควรรีบทำความสะอาดด้วยแปรงขนนุ่มและน้ำยากำจัดสนิม แล้วตามด้วยน้ำยาเคลือบเพื่อป้องกันสนิมเกิดซ้ำอีก
อีกหนึ่งปัจจัยที่ไม่ควรมองข้ามคือสภาพแวดล้อมรอบข้าง ไม่ควรวางเฟอร์นิเจอร์ไว้ในจุดที่มีความชื้นสูง เช่น ใกล้หน้าต่างห้องน้ำ หรือบริเวณที่โดนแดดตลอดเวลา เพราะจะเร่งให้วัสดุเสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ การวางตำแหน่งที่เหมาะสมจะช่วยยืดอายุของเฟอร์นิเจอร์ได้ดี อีกทั้งควรหลีกเลี่ยงการวางของหนักบนเฟอร์นิเจอร์ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับน้ำหนักเบา เช่น โต๊ะวางของเล็ก ๆ หรือชั้นวางของตกแต่ง เพราะอาจทำให้โครงสร้างเสียรูปหรือเกิดการแตกร้าวในระยะยาว
ทั้งหมดนี้คือแนวทางในการดูแลเฟอร์นิเจอร์ตามประเภทของวัสดุอย่างเหมาะสม ซึ่งหากปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอ เฟอร์นิเจอร์ของคุณก็จะยังคงคุณภาพและความสวยงามอยู่คู่บ้านไปอีกนาน ไม่ว่าจะเป็นไม้ หนัง ผ้า หรือโลหะก็ตาม การใส่ใจในรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้จะทำให้คุณเห็นความแตกต่างได้อย่างชัดเจนในระยะยาว ทั้งในเรื่องของรูปลักษณ์และประสิทธิภาพในการใช้งาน