ในการไปท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่น จะต้องมีสัมภาระมากมายติดตัวไปด้วยเสมอ ไม่ว่าจะเป็น กระเป๋า เสื้อผ้า หรือสิ่งของเครื่องใช้ส่วนตัว เชื่อหลายคนคงมีปัญหาในการแบกข้าวของที่หนัก ๆ ติดตัวไปตลอด จนทำให้เมื่อยขา ส่งผลให้เวลาเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ หมดความสนุกเอาง่าย ๆ ได้เลย แต่ปัญหาเหล่านั้นจะหมดไปถ้าคุณใช้บริการฝากของที่ ตู้ล็อกเกอร์ ที่ญี่ปุ่น ที่จะมีติดตั้งไว้ทั่วทุกสถานที่ไม่ว่าจะเป็น สถานีรถไฟ สนามบิน ในห้าง หรือแม้แต่ริมถนน ก็ยังมีตู้ล็อกเกอร์ให้ใช้ ซึ่งสะดวกมาก ๆ สำหรับนักท่องเที่ยวแบบเรา และไม่ต้องแบกสัมภาระติดตัวไปเที่ยวให้หนักกายอีกต่อไป ซึ่งวันนี้เราจะมาอธิบายถึงขั้นตอนและวิธีการใช้งานบริการฝากของที่ ตู้ล็อกเกอร์ ในประเทศญี่ปุ่น และรายละเอียดต่าง ๆ ในการฝากของที่ตู้ล็อกเกอร์ เพื่อให้ทุกคนที่กำลังจะไปเที่ยวญี่ปุ่นได้ฝากของได้อย่างถูกต้อง
วิธีฝากสัมภาระที่ ตู้ล็อกเกอร์
1.มองหาตู้ล็อกเกอร์ ตู้ล็อกเกอร์นั้นสามารถหาได้ง่าย เพราะว่าเวลาคุณเดินทางไปเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ ไม่ว่าจะขึ้นรถ ลงเรือ หรือใช้บริการรถไฟฟ้า คุณก็น่าจะเห็นตู้ล็อกเกอร์อยู่บริเวณใกล้ ๆ แถวนั้นแน่นอน
2.สังเกตตู้ล็อกเกอร์ที่ว่าง เมื่อคุณพบตู้ล็อกเกอร์แล้ว หลังจากนั้นคุณก็ต้องสังเกตว่าตู้ล็อกเกอร์นั้นว่างอยู่หรือป่าว ซึ่งวิธีสังเกตง่าย ๆ ก็คือดูตู้ไหนว่างจะมีไฟสีเขียวขึ้น ส่วนตู้ไหนไม่ว่างจะขึ้นไฟสีแดง
3.เลือกขนาด ตู้ล็อกเกอร์ที่ญี่ปุ่นนั้นจะมีช่องเก็บของที่มีขนาดแตกต่างกัน 3 แบบคือ แบบเล็ก แบบกลาง และแบบใหญ่ ดังนั้นคุณก็ต้องเลือกตู้ให้มีขนาดพอดีกับกระเป๋าของคุณ ตัวอย่างเช่นกระเป๋าของคุณขนาด 26” ก็ใช้ตู้ที่มีขนาดใหญ่ เมื่อใส่กระเป๋าเรียบร้อยแล้วตรวจสอบให้แน่ใจว่าสัมภาระของคุณเข้าไปครบหรือยังก่อนปิดตู้
4.ชำระเงิน เมื่อทำการปิดตู้เรียบร้อยแล้ว ระบบจะให้เลือกวิธีการชำระเงิน มีให้เลือก 2 วิธี คือ 1.หยอดเหรียญ 2.บัตรIC ขอยกตัวอย่างเป็นแบบชำระเงินโดยการหยอดเหรียญ เช่น ตู้ที่ผมใช้มีราคา 600 เยน ก็ทำการหยอดเหรียญหรือใช้ธนบัตรก็ได้ ถ้าใส่ธนบัตร 1000 เยน ระบบจะมีการทอนเงินตามจำนวนที่เหลืออัตโนมัติ
5.รับสลิป เมื่อทำการชำระเงินครบถ้วนเรียบร้อยแล้ว เครื่องตู้ล็อกเกอร์จะให้สลิปเรามา 1 ใบ ซึ่งต้องเก็บให้ดี ๆ เพราะว่าตอนที่มาเอากระเป๋าคืนต้องใช้ใบสลิปนี้ในการยืนยัน เป็นอันเสร็จสิ้นการฝากของไว้ในตู้ล็อกเกอร์
วิธีการเอาสัมภาระออกจาก ตู้ล็อกเกอร์
ขั้นตอนการเอากระเป๋าออกนั้นจริง ๆ แล้วง่ายกว่าต้องฝากอีกด้วย วิธีก็คือให้กลับไปที่ตู้ล็อกเกอร์ที่ฝากของ หลังจากนั้นให้กดปุ่มรูปกระเป๋าออก จากนั้นระบบจะให้เราพิมพ์รหัสจากสลิป หรือสแกน QRโคดก็ได้ เท่านี้ก็สามารถนำสัมภาระออกได้อย่างง่าย ๆ เลย
ข้อควรระวัง
-สามารถฝากได้สูงสุด 3 วัน ยกตัวอย่างเช่น เราฝากของในเวลา 24.00 ของวันที่ 10 มกราคม เมื่อระยะเวลาเกินวันที่ 13 ของเวลา 24.01 คุณจะต้องมาหยอดเหรียญเพิ่ม ไม่เช่นนั้นตู้ล็อกเกอร์จะเปิดไม่ออก
-หากฝากของเกินกว่า 3 วัน ถ้าฝากของเกินกำหนด โดยที่ไม่มาต่อเวลาเพิ่ม สัมภาระของคุณจะถูกยึดและเก็บไว้ที่เจ้าหน้าที่สถานี และต้องเสียค่าปรับกับเจ้าหน้าที่เพื่อเอาของคืน
ขอจบเนื้อหาของเราในวันนี้ หวังว่าจะช่วยให้คุณเข้าใจและได้ความรู้เกี่ยวกับการฝากของที่ญี่ปุ่นเพิ่มมากขึ้น ส่วนใครอยากหาซื้อเฟอร์นิเจอร์ เช่น ตู้เก็บของ ตู้เก็บเอกสาร ตู้เหล็กเก็บของ ตู้ล็อกเกอร์ และอื่น ๆ อีกมากมาย สามารถสั่งซื้อผ่านเว็บไซต์ของเราได้ง่าย ๆ ผ่านช่องทางออนไลน์ เรามีบริการประกอบเฟอร์นิเจอร์ให้ฟรีและจัดส่งอย่างรวดเร็ว