การออกแบบห้องประชุมที่มีพื้นที่จำกัดให้ดูกว้างขวางและใช้งานได้จริงไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อองค์ประกอบสำคัญของห้องคือ “โต๊ะประชุม” ที่มักจะมีขนาดใหญ่และเป็นจุดศูนย์กลางของห้อง หากเลือกหรือจัดวางไม่เหมาะสม ก็จะยิ่งทำให้ห้องดูคับแคบ และส่งผลต่อประสิทธิภาพของการประชุมโดยรวม ในบทความนี้เราจะมาอธิบายเทคนิคการเลือกและจัดวางโต๊ะประชุมอย่างละเอียด เพื่อช่วยให้ห้องประชุมของคุณดูกว้าง ไม่อึดอัด และสามารถใช้พื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
ทำไมห้องประชุมแคบถึงเป็นปัญหา?
ห้องประชุมที่มีพื้นที่จำกัดอาจสร้างข้อจำกัดต่อการใช้งานในหลายด้าน ทั้งในแง่ของการเดินเข้าออก ความสะดวกในการเคลื่อนย้าย การจัดวางอุปกรณ์ และที่สำคัญคือความรู้สึกของผู้เข้าร่วมประชุม หากโต๊ะประชุมที่ใช้มีขนาดใหญ่เกินไป หรือวางชิดผนังมากเกินไป จะทำให้การเข้าออกเป็นไปอย่างลำบาก นอกจากนี้ยังทำให้ห้องดูอึดอัด ไม่เอื้อต่อการสื่อสารหรือทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ เสียงสะท้อนในห้องแคบยังเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้การประชุมไม่มีคุณภาพ หากไม่มีการจัดวางโต๊ะอย่างเหมาะสม
เทคนิคจัดวางโต๊ะประชุมให้ดูกว้างขึ้น
1. กำหนดโฟลว์ (Flow) และระยะเผื่อรอบโต๊ะ
การเว้นพื้นที่รอบโต๊ะประชุมให้พอเหมาะเป็นเรื่องสำคัญมาก โดยควรเว้นระยะห่างจากผนังอย่างน้อย 90 ซม. เพื่อให้สามารถดึงเก้าอี้เข้าออกได้อย่างสะดวกและให้ผู้ใช้งานสามารถเดินผ่านได้โดยไม่ชนเฟอร์นิเจอร์ การกำหนดเส้นทางการเคลื่อนไหวในห้อง (flow) อย่างชัดเจนจะช่วยให้การใช้งานห้องประชุมราบรื่นมากขึ้น ไม่ติดขัด
2. จัดผังโต๊ะประชุมให้สอดคล้องกับรูปทรงห้อง
การวางโต๊ะประชุมควรสอดคล้องกับลักษณะห้อง เช่น ถ้าห้องยาว ควรวางโต๊ะตามแนวห้อง ไม่ควรวางแนวขวางเพราะจะทำให้พื้นที่ดูแคบลงทันที โต๊ะควรอยู่กึ่งกลางห้องและหันด้านยาวขนานไปกับความยาวของห้อง เพื่อสร้างความรู้สึกสมดุล และช่วยให้แสงและการเคลื่อนไหวในห้องไหลเวียนได้ดีขึ้น
3. ใช้โต๊ะประชุมแบบโมดูลาร์หรือเคลื่อนย้ายได้
โต๊ะประชุมแบบโมดูลาร์หรือที่สามารถพับได้จะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นในการใช้งาน หากมีจำนวนผู้เข้าร่วมประชุมน้อยสามารถลดจำนวนโต๊ะหรือขนาดโต๊ะได้ เมื่อมีการประชุมขนาดใหญ่ค่อยปรับเพิ่มโต๊ะให้เหมาะสม วิธีนี้จะช่วยคืนพื้นที่ว่างในห้องให้สามารถใช้งานอย่างอื่นได้อีกด้วย
วิธีเลือกแบบโต๊ะประชุมให้ประหยัดพื้นที่
1. เลือกรูปทรงที่เหมาะกับพื้นที่
โต๊ะทรงกลมหรือวงรีเหมาะกับห้องขนาดเล็ก เพราะไม่มีมุมเหลี่ยมจึงประหยัดพื้นที่และช่วยให้คนรอบโต๊ะสามารถมองเห็นกันได้ง่ายขึ้น ในขณะที่โต๊ะทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าควรเลือกแบบที่กว้างไม่เกินครึ่งหนึ่งของความกว้างห้อง เพื่อให้เหลือพื้นที่เดินข้างโต๊ะ
2. เลือกโต๊ะที่มีขาแบบกลางหรือขาเล็ก
โต๊ะที่มีขากลางจะช่วยลดสิ่งกีดขวางบริเวณขาและพื้นห้อง ทำให้ห้องดูโล่งตาขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้จัดเก้าอี้รอบโต๊ะได้ง่าย ไม่ติดขาโต๊ะแบบสี่มุมทั่วไป
3. ใช้วัสดุที่ดูเบาและโปร่ง
วัสดุเช่นกระจกใส อะลูมิเนียม หรือไม้ลามิเนตโทนสว่างช่วยให้โต๊ะประชุมดูไม่ทึบตัน และช่วยสะท้อนแสง ทำให้ห้องดูสว่างและกว้างขึ้น โต๊ะที่มีโครงสร้างบาง ไม่มีฐานทึบจะยิ่งช่วยเพิ่มความโปร่งของพื้นที่
4. มีช่องจัดเก็บสายไฟในตัว
โต๊ะประชุมที่มีช่องสำหรับเก็บสายไฟในตัวจะช่วยลดความรกและเพิ่มความเป็นระเบียบ ลดการเกิดอุบัติเหตุจากสายไฟพันกันบนพื้น ช่วยให้ห้องดูสะอาดตาและปลอดภัยยิ่งขึ้น
เคล็ดลับเสริมให้ห้องประชุมดูใหญ่ขึ้น
1. ใช้สีอ่อนและแสงธรรมชาติ
เลือกใช้สีผนัง เพดาน และพื้นในโทนอ่อน เช่น ขาว เทาอ่อน หรือเบจ เพื่อช่วยให้ห้องดูโปร่งขึ้น หากสามารถใช้แสงธรรมชาติจากหน้าต่างได้ก็ควรเปิดให้แสงเข้ามาเต็มที่ โดยติดม่านบางเพื่อกรองแสงโดยไม่ปิดกั้น
2. ติดกระจกหรือพาร์ติชันใส
การติดกระจกบนผนัง หรือใช้พาร์ติชันแบบใสหรือฝ้าช่วยให้ห้องดูมีมิติ ลึกขึ้น และโปร่งขึ้น อีกทั้งยังสะท้อนแสงได้ดี เพิ่มความสว่างโดยรวมให้กับพื้นที่
3. เลือกเฟอร์นิเจอร์ขนาดกะทัดรัด
เก้าอี้ประชุมควรเลือกแบบไม่มีพนักแขน หรือมีขนาดเล็ก เพื่อประหยัดพื้นที่วาง โต๊ะข้างหรือตู้เก็บของควรเลือกขนาดเล็กหรือใช้ชั้นลอยแทน
4. จัดแสงแบบหลายระดับ
การใช้แสงไฟแบบหลายชั้น เช่น ไฟหลักบนเพดาน ไฟซ่อนตามขอบ หรือไฟตั้งโต๊ะ ช่วยให้ห้องประชุมดูมีมิติ ไม่แบน และไม่เกิดเงาทึบบริเวณมุมห้อง
สรุป
ห้องประชุมที่มีพื้นที่จำกัดสามารถออกแบบให้ดูกว้างและใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเริ่มจากการเลือกและจัดวางโต๊ะประชุมอย่างถูกหลัก ทั้งในแง่ของขนาด รูปทรง วัสดุ และตำแหน่งการวาง ประกอบกับการใช้แสง สี และวัสดุที่เหมาะสมร่วมด้วย จะช่วยสร้างบรรยากาศการประชุมที่โปร่ง โล่ง สบายตา และส่งเสริมการสื่อสารได้อย่างเต็มที่
หากคุณต้องการคำแนะนำเพิ่มเติมในการออกแบบห้องประชุมสำหรับพื้นที่เฉพาะ หรือสนใจสั่งผลิตโต๊ะประชุมแบบสั่งทำตามขนาดจริง 👉 OFISU.CO.TH มีบริการออกแบบ 3D พร้อมผลิตและติดตั้งครบวงจร


