เมื่อพูดถึงการเลือกหาเฟอร์นิเจอร์สำหรับตกแต่งบ้าน แน่นอนว่าขั้นตอนที่คนส่วนใหญ่ให้ความสำคัญก็ย่อมต้องเป็นการเลือกสรรเฟอร์นิเจอร์ที่มีความแมตช์กันได้กับสไตล์ตกแต่งบ้านที่ต้องการ รวมถึงมีฟังก์ชั่นที่ตรงกับความต้องการใช้งาน ตัวอย่างเช่นหากเราต้องการชั้นสำหรับจัดวางของใช้ ของตกแต่งในห้องนั่งเล่น เราก็จะมองหาเฟอร์นิเจอร์ประเภทชั้นวางของติดผนัง ที่มีสีสัน วัสดุที่แมตช์กันได้ผนัง และพื้นห้องนั่งเล่น หรือของตกแต่งอื่นๆ ที่จัดวางในห้องอยู่ก่อนแล้ว เป็นต้น ทว่าในความเป็นจริงยังมีอีกขั้นตอนสำคัญที่จะช่วยให้การตกแต่งออกมาสวยงาม และได้ฟังก์ชั่นที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ประจำวันของเรามากที่สุด ซึ่งก็คือขั้นตอนของการเลือกจัดวางเฟอร์นิเจอร์แต่ละชิ้นอย่างเหมาะสม และปรับใช้งานฟังก์ชั่นของตัวเฟอร์นิเจอร์ โดยอิงจากไลฟ์สไตล์จริงของผู้อยู่อาศัยมากกว่าประโยชน์ใช้งานตามประเภทที่ระบุโดยโรงงาน หรือแบรนด์ผู้ผลิต
เลือกจัดวางอย่างเหมาะสม โดยทั่วไปแล้วในการเลือกจัดวางเฟอร์นิเจอร์ ของตกแต่งใดๆ หลายคนมักคำนึงถึงความงามแมตช์กันได้กับขนาดของพื้นที่ แต่การเลือกจัดวางให้เหมาะสมและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยจริงด้วยนั้น เพียงแค่ความแมตช์กันได้กับพื้นที่ถือว่ายังไม่เพียงพอ เราจำเป็นต้องคำนึงถึงปัจจัยอื่นๆ ร่วมด้วย ตัวอย่างเช่น การเลือกจัดวางชั้นวางของจิปาถะต่างๆ โดยทั่วไปหากคำนึงถึงความเหมาะสมของพื้นที่ และฟังก์ชั่นใช้งานตามประเภท เราอาจเลือกจัดวางในห้องนั่งเล่น แต่ถ้าพิจารณาถึงไลฟ์สไตล์ หรือความต้องการใช้งานจริงของสมาชิกในบ้านด้วยแล้ว ก็อาจได้คำตอบว่า บริเวณโถงทางเดิน ซึ่งเชื่อมต่อกับพื้นที่ส่วนต่างๆ ของบ้านคือตำแหน่งที่เหมาะสมกับการจัดวางมากกว่า เพราะสิ่งของต่างๆ ที่ถูกจัดเก็บ หรือวางไว้บนชั้นวางของมักจะเป็นสิ่งที่สมาชิกทุกคนในบ้านจำเป็นต้องหยิบจับใช้งานสำหรับกิจกรรมต่างๆ อยู่เป็นประจำ และโถงทางเดินก็ถือเป็นบริเวณที่สะดวกต่อการเลือกหาสิ่งของสำหรับสมาชิกทุกคนในบ้านมากกว่าห้องใดห้องนึงของบ้าน
ระดับความสูงของเฟอร์นิเจอร์สำหรับจัดวางสิ่งของที่ต้องหยิบใช้ใช้งานประจำต้องอยู่ในระดับที่ยื่นมือหยิบจับได้สะดวก ปัญหานึงที่พบได้บ่อยในการเลือกหาเฟอร์นิเจอร์ใช้งานตามฟังก์ชั่นที่เราต้องการก็คือ แม้ว่าจะได้เฟอร์นิเจอร์ที่มีฟังก์ชั่นตรงตามความต้องการ แต่ระดับความสูง หรือขนาดกลับทำให้ไม่สะดวกต่อการหยิบจับสิ่งของมาใช้งาน ตัวอย่างเช่น ชั้นวางจานในห้องครัวบางแบรนด์บางรุ่นอาจเตี้ยจนต้องก้ม หรือย่อตัวลงเพื่อหยิบจานมาใช้งาน ดังนั้นในการเลือกจัดวางเฟอร์นิเจอร์สำหรับพื้นที่ส่วนต่างๆ ของบ้านจึงอาจต้องมีการเลือกประยุกต์ใช้งานเฟอร์นิเจอร์แต่ละชิ้นเพื่อให้ได้ฟังก์ชั่นที่ตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์ของเราจริงๆ ด้วย อย่างในกรณีตัวอย่าง ชั้นวางจานในห้องครัวดังกล่าวนั้น หากชั้นมีขนาดเตี้ยเกินไปเราอาจใช้วิธีวางชั้นซ้อนบนชั้นวางเครื่องครัวอื่นๆ ซึ่งเป็นสิ่งของที่ไม่ได้หยิบจับใช้งานบ่อยเพื่อให้ระดับชั้นวางจานสูงขั้นมาอยู่ในระดับที่ยื่นมือไปหยิบจับจานมาใช้งานได้สะดวก หรืออีกตัวอย่างนึง ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งวิธียอดฮิตในการประยุกต์ใช้งานฟังก์ชั่นของเฟอร์นิเจอร์ชิ้นต่างๆ ก็คือการนำตะกร้า หรือชั้นวางของขนาดเล็ก วางซ้อนเข้าไปในพื้นที่ของตู้เก็บของ ตู้ครัว หรือตู้ประเภทใดๆ เพื่อเพิ่มฟังก์ชั่นใช้งานในการจัดวาง จัดเก็บสิ่งของให้มีความเป็นสัดส่วนขึ้น เพราะแม้ว่าตู้หลายๆ รุ่น จากแบรนด์เฟอร์นิเจอร์ที่เราชื่นชอบจะมีขนาด สีสันที่สวยงามตรงตามความต้องการ แต่พื้นที่ส่วนฟังก์ชั่นใช้งานจริงภายในตู้อาจจะไม่ตอบโจทย์ หรือมีการแบ่งสัดส่วนมาให้เพียงพอต่อประเภทสิ่งของที่ต้องการจัดเก็บ