ที่อยู่อาศัยในปัจจุบันนั้นมีความสะดวกสบายอย่างมาก ทั้งการออกแบบโครงสร้างของบ้านหรือการวางเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ เพื่อให้สะดวกต่อการใช้งาน การออกแบบภายในของบ้านนั้น จะมีการออกแบบเฟอร์นิเจอร์ 2 รูปแบบ คือเป็นเฟอร์นิเจอร์ลอยตัว และ เฟอร์นิเจอร์แบบ บิวท์อิน ซึ่งหลาย ๆ คนอาจจะสงสัยว่าระหว่างเฟอร์นิเจอร์ทั้ง 2 รูปแบบนี้ แบบไหนเหมาะกับการใช้งานมากกว่ากัน
เฟอร์นิเจอร์ลอยตัว เป็นเฟอร์นิเจอร์รูปแบบทั่วไปที่สามารถเคลื่อนย้ายได้ เช่น โซฟา เก้าอี้ ซึ่งข้อดีของเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวคือ ราคาถูกกว่าเฟอร์นิเจอร์แบบบิวท์อิน และเรายังสามารถดูแบบของเฟอร์นิเจอร์ได้ สามารถเลือกดูสินค้าจริงได้ก่อนการใช้งาน สามารถปรับเปลี่ยนตำแหน่งต่าง ๆ ได้ตามความต้องการ ซึ่งเฟอร์นิเจอร์รูปแบบนี้เหมาะสำหรับคนที่ชอบเคลื่อนย้ายหรือปรับเปลี่ยนตำแหน่งสิ่งของภายในบ้าน หรือคนที่ขี้เบื่อ ไม่ชอบให้บ้านอยู่ในลักษณะเดิม เฟอร์นิเจอร์ลอยตัวจะสามารถตอบโจทย์ได้ดีกว่า แต่เฟอร์นิเจอร์ลอยตัวเองก็มีข้อเสียเช่นกัน เพราะเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวนั้น มีรูปแบบ สี ขนาด ที่ตายตัว ไม่สามารถปรับเปลี่ยนเองได้ เพราะเป็นการออกแบบตามมาตรฐานของโรงงาน นอกจากนั้นสินค้ายังเป็นเป็นสินค้าที่มีจำนวนมาก ทำให้อาจจะพบสินค้ารูปแบบเดียวกันตามสถานที่อื่น ๆ หรือพูดง่าย ๆ คือ การซื้อเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวมีโอกาสที่จะมีเฟอร์นิเจอร์ในบ้านซ้ำกันกับคนอื่นได้นั่นเอง
เฟอร์นิเจอร์บิวท์อิน เป็นรูปแบบของการฝังเฟอร์นิเจอร์ลงไปบนพื้นหรือตัวบ้านเช่น ซึ่งเฟอร์นิเจอร์ในรูปแบบนี้จะมีราคาที่สูงกว่าเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวอยู่พอสมควร เพราะเป็นการออกแบบด้วยตนเอง ซึ่งก็อาจจะมีค่าออกแบบ ค่าช่าง และอื่น ๆ นอกจากนั้นยังเคลื่อนย้ายลำบาก เพราะเฟอร์นิเจอร์ถูกยึดไว้กับตัวบ้านแล้ว และการติดตั้งเฟอร์นิเจอร์บิวท์อินก็จะใช้ระยะเวลามากกว่าการเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์แบบลอยตัวด้วย แต่เฟอร์นิเจอร์แบบบิวท์อินกลับได้รับความนิยมมากกว่าเนื่องจาก เฟอร์นิเจอร์แบบบิวท์อินจะมีความแข็งแรงทนทานมากกว่าเฟอร์นิเจอร์รูปแบบอื่น ๆ อาจจะเป็นเพราะความนิยมส่วนใหญ่มักจะใช้ปูนทรายเป็นวัสดุสำคัญในการก่อสร้าง นอกจากนี้เฟอร์นิเจอร์แบบบิวท์อินยังสามารถออกแบบเองได้ สามารถปรับแต่งรูปแบบให้เข้ากับพื้นที่บ้านของเราได้ ทำให้สามารถใช้สอยพื้นที่ต่าง ๆ ภายในบ้านได้อย่างคุ้มค่า เหมาะสำหรับบ้านที่มีพื้นที่จำกัด ซึ่งส่วนใหญ่มักจะนิยมสร้างเฟอร์นิเจอร์แบบบิวท์อินเป็น ชั้นวางของ ตู้โชว์ หรือเคาน์เตอร์ต้อนรับต่าง ๆ เป็นต้น
ซึ่งความจริงนั้น เฟอร์นิเจอร์ทั้ง 2 รูปแบบนั้นต่างก็มีข้อดีและข้อเสียอยู่ในตัวเอง มีความสะดวกสบายในการใช้งานที่แตกต่างกัน ซึ่งหากจะพูดว่าเฟอร์นิเจอร์แบบไหนดีกว่ากันก็คงจะไม่สามารถบอกได้ แต่หากจะดูว่าบ้านแบบไหนเหมาะสมที่จะใช้เฟอร์นิเจอร์รูปแบบไหนอาจจะดูได้ง่ายกว่า เพราะรูปแบบบ้านแต่ละหลังและการใช้งานเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ ในแต่ละครัวเรือนนั้นไม่เหมือนกัน เราควรเลือกดูตามความเหมาะสมและลักษณะการใช้งานตามลักษณะนิสัยของแต่ละบุคคลด้วย
การขนส่งสำหรับเฟอร์นิเจอร์ทั้ง 2 แบบก็ยังมีความแตกต่างกันอีกมาก เพราะหากเราต้องการใช้งานเฟอร์นิเจอร์ลอยตัว เราจำเป็นต้องใช้บริการทางขนส่ง เพื่อจัดส่งเฟอร์นิเจอร์ไปยังสถานที่ต่าง ๆ แต่หากเป็นการใช้งานเฟอร์นิเจอร์บิวท์อิน เราต้องเรียกช่างให้มาประกอบหรือติดตั้งเฟอร์นิเจอร์ ซึ่ง เฟอร์นิเจอร์บิวท์อินนั้น ไม่เหมาะอย่างมากสำหรับคนที่เปลี่ยนที่อยู่บ่อยหรืออยู่บ้านเช่า เพราะเฟอร์นิเจอร์ชนิดนี้ไม่สามารถทำการเคลื่อนย้ายได้เลย
การเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ทางที่ดีควรประยุกต์ให้สามารถใช้เฟอร์นิเจอร์ร่วมกันได้ทั้ง 2 แบบ เช่น ในส่วนของห้องครัวตรงเคาน์เตอร์ห้องครัวอาจจะใช้เป็นเฟอร์นิเจอร์แบบบิวท์อิน แต่ในส่วนของโต๊ะทานอาหาร เก้าอี้ ก็ใช้เป็นเฟอร์นิเจอร์ลอยตัว เป็นต้น เฟอร์นิเจอร์ทั้ง 2 แบบก็จะสามารถประยุกต์ใช้ร่วมกันได้อย่างลงตัวตามความเหมาะสม
ข้อสำคัญอีกข้อหนึ่งคือการเลือกใช้วัสดุของเฟอร์นิเจอร์ในการตกแต่งบ้านตามพื้นที่ส่วนต่าง ๆ ของบ้าน ควรมีความสอดคล้องกับการใช้งาน หากเป็นห้องครัวหรือห้องน้ำ ก็ไม่ควรเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้ เพราะอาจจะเกิดการชำรุดเสียหายได้ง่ายมากกว่า ดังนั้น การตกแต่งบ้านนั้นมีรายละเอียดหลายอย่างมาก ควรศึกษารายละเอียดส่วนต่าง ๆ หรือปรึกษาบริษัทออกแบบบ้าน เพื่อบ้านที่น่าอยู่ของเราค่ะ