เมื่อพูดถึงเทรนด์ของงาน Interior Design หรือการออกแบบตกแต่งภายในอาคาร ภายในตัวบ้านในปัจจุบันก็ย่อมต้องนึกถึงเฟอร์นิเจอร์แบบบิวท์อินควบคู่กันไปด้วย เรียกได้ว่าการบิวท์อินเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์บ้านสมัยใหม่มากกว่าเฟอร์นิเจอร์แบบลอยตัวก็ว่าได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อดีไซน์ รูปทรงอาคาร, บ้าน ในปัจจุบันมีความหลากหลายมากขึ้นพร้อมๆ กับที่ข้อจำกัดด้านพื้นที่ หรือที่ดินในการปลูกสร้างมีมากขึ้นกว่าบ้านในยุคก่อนๆ เช่นกัน ก็ยิ่งทำให้เฟอร์นิเจอร์ลอยตัวในขนาดมาตรฐานต่างๆ ไม่สามารถแมตช์กันได้ดีกับพื้นที่ภายในตัวอาคาร ตัวบ้านเหมือนที่เคยเป็นมา อย่างไรก็ตามการเลือกใช้วิธีบิวท์อินจากภายในก็ถือว่าเป็นโจทย์ที่ยากสำหรับทั้งนักออกแบบ และผู้อยู่อาศัย หรือเจ้าของบ้านเช่นกัน เพราะเมื่อเทียบงบประมาณโดยทั่วไปแล้ว การบิวท์อินถือว่าใช้งบสูงกว่าการใช้เฟอร์นิเจอร์สำเร็จรูปพอสมควร อีกทั้งการคาดการณ์ วางแพลนใช้งบบิวท์อินพื้นที่ส่วนใดๆ ก็นับเป็นเรื่องยากด้วย เนื่องจากการบิวท์อินไม่มีราคาตายตัว ทั้งยังขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการคิดเรทค่าแรง หรือค่าบริการของแต่ละบริษัทที่แตกต่างกัน คุณภาพวัสดุที่เลือกใช้ ความยากง่ายของดีไซน์ที่เราต้องการ ในบทความนี้จึงได้นำเอาวิธีกะประมาณงบในการบิวท์อินเฟอร์นิเจอร์ ซึ่งจะช่วยให้เราพอทราบตัวเลขงบคร่าวๆ ได้ก่อนการตัดสินใจเริ่มบิวท์อินพื้นที่ส่วนใดๆ ของบ้าน
งบประมาณในการออกแบบตารางเมตรละ 1,000 บาทขึ้นไป เมื่อพูดถึงงบประมาณในการบิวท์อินพื้นที่ส่วนใดๆ หลายคนมักนึกถึงเฉพาะงบส่วนของค่าบริการ หรือค่าแรงและค่าวัสดุของเฟอร์นิเจอร์ชิ้นนั้นๆ แต่ขั้นตอนของการบิวท์อินจริงๆ นั้นเริ่มต้นที่การออกแบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเป็นการบิวท์อินแบบยกห้อง หรือพื้นที่ทั้งส่วน หากเราไม่มีความรู้เรื่องการออกแบบ ไม่สามารถวาดแบบเองได้ก็จำเป็นต้องให้สถาปนิกออกแบบให้ โดยอ้างอิงจากขนาดและรูปทรงของพื้นที่จริง เพราะหากไม่มีการออกแบบ วาดแบบขึ้นมาโดยอ้างอิงจากพื้นที่จริงจะทำให้ขั้นตอนการบิวท์อินเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใดๆ เป็นไปด้วยความยากลำบาก และผลงานที่ออกมาก็อาจจะไม่ตรงใจเรา โดยงบประมาณส่วนนี้ ตามเรทราคาของบริษัทรับออกแบบและตกแต่งภายในทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณตารางเมตรละ 1,000 บาทขึ้นไป ดังนั้นหากเป็นห้องขนาด 20 ตารางเมตร ก็จำเป็นต้องกันงบส่วนของการออกแบบไว้ที่ประมาณ 20,000 บาท เป็นอย่างน้อย
งบค่าวัสดุ ส่วนที่ถือว่าน่าจะเป็นหัวใจหลักของการใช้งบบิวท์อินเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใดๆ และเป็นส่วนที่กะประมาณได้ยากที่สุด มีความยืดหยุ่นตามปัจจัยหลายปัจจัยก็คือส่วนของค่าวัสดุนั่นเอง เพราะเรทราคาจะผันแปรตามคุณภาพ หรือเกรดของวัสดุที่เลือกใช้ นอกจากนี้บริษัทรับตกแต่งภายในก็อาจคิดรวมกับค่าบริการ หรือค่าแรง(ซึ่งแต่ละบริษัทอาจตั้งเรทไว้ต่างกัน)ด้วย โดยเรทราคาค่าวัสดุต่อเมตร(อ้างอิงจากความยาวของเฟอร์นิเจอร์แต่ละชิ้นที่จะทำการบิวท์อิน) รวมกับค่าแรงมีเริ่มต้นตั้งแต่หมื่นต้นๆ ไปจนถึงหลายหมื่นบาท ดังนั้นหากจะลองกะประมาณคร่าวๆ โดยอิงจากเกรดวัสดุระดับกลาง ก็อาจลองใช้ตัวเลขกลมๆ ที่ 20,000 บาทต่อเมตร คูณกับขนาดความยาวของเฟอร์นิเจอร์รวมกัน ตัวอย่างเช่น ความยาวตู้เสื้อผ้าและเตียงนอน รวมกัน 6 เมตร = 6*20,000 ก็จะได้ราคาค่าวัสดุและค่าแรงบิวท์อินรวมคร่าวๆ ที่ 120,000 บาท เป็นต้น
ความยากง่าย สลับซับซ้อนของดีไซน์รูปทรง ปัจจัยอีกส่วนที่ค่อนข้างส่งผลต่องบในการบิวท์อินเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใดๆ ก็คือดีไซน์รูปทรงของเฟอร์นิเจอร์ชิ้นนั้นๆ ที่เราต้องการ เช่น ตู้ โต๊ะ เตียง ชั้นวางทีวี ที่ต้องใช้พื้นที่จำกัดร่วมกัน เพราะบริษัทรับตกแต่งภายในแต่ละที่มักเลือกคิดเรทราคาต่างกันไปตามความยากง่ายของดีไซน์ ซึ่งเป็นส่วนที่เราจะต้องสอบถามกับทางบริษัทที่เราใช้บริการโดยตรงเพื่อให้สามารถทราบตัวเลขที่ชัดเจนของค่าวัสดุและค่าบริการ โดยสามารถใช้แบบแปลนจากสถาปนิกเป็นแบบอ้างอิงเพื่อให้ทางบริษัทเสนอราคาให้