หนัง เรียกได้ว่าเป็นวัสดุที่นิยมใช้ย่างแพร่หลายในปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์หรือสินค้าต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น เสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า เข็มขัด โดยเฉพาะกับเฟอร์นิเจอร์ เช่น โซฟา เก้าอี้สํานักงาน หรือ เก้าอี้ผู้บริหาร เป็นต้น โดยส่วนมากสินค้าเหล่านี้จะใช้วัสดุที่ ทำมาจากหนัง เพราะว่าเฟอร์นิเจอร์ที่ทำมาหนัง จะให้ความสวยงาม หรูหรา และมีความทนทาน ใช้งานได้ยาวนาน อีกทั้งนำไปตกแต่งบ้านได้หลากหลายสไตล์ ไม่ว่าจะเป็น สไตล์ทันสมัย สไตล์มินิมอล หรือสไตล์คลาสสิก เรียกได้เลยว่า เฟอร์นิเจอร์หนัง จึงเป็นที่ชื่นชอบของใครหลาย ๆ คนเลยทีเดียว ซึ่งวันนี้เราจะมาให้ความรู้เกี่ยว เฟอร์นิเจอร์หนัง ว่ามีกี่ประเภท และคุณสมบัติต่าง ๆ ของเฟอร์นิเจอร์หนังประกอบไปด้วยอะไรบ้าง เพื่อให้ทุกคนได้เข้าใจและทำความรู้จักเกี่ยวกับเฟอร์นิเจอร์หนังมากยิ่งขึ้น สำหรับคนที่ชื่นชอบวัสดุหนังไม่ควรพลาด เราไปเริ่มเนื้อหากันเลย
วัสดุหนัง ที่ใช้ในการผลิต เฟอร์นิเจอร์ ไม่ได้มีแค่ หนังแท้ เพียงอย่างเดียว แต่ยังมีหนังประเภทอื่น ๆ ด้วย เพื่อผลิตขึ้นมาทดแทน หนังแท้ ซึ่งวัสดุหนัง ที่ใช้ในการผลิตเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ ในปัจจุบันแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักใหญ่ ๆ คือ หนังแท้และหนังเทียม ซึ่งคุณสมบัติของวัสดุหนังแท้กับหนังเทียม จะมีว่าแตกต่างกันอย่างไร
1.หนังแท้ หนังแท้ เป็นหนังที่ได้มาจากสัตว์ เช่น หนังม้า หนังจระเข้ หนังปลากระเบน หนังนกกระจอกเทศ หนังวัว เป็นต้น โดยนำผิวหนังของสัตว์เหล่านั้นมาผ่านกระบวนการฟอกเพื่อไม่ให้เน่าเปื่อย หนังแท้จะมีลวดลายเป็นธรรมชาติ และไม่มีรอยต่อ ซึ่งบางครั้งหนังแท้จะมีการปั๊ม logo อย่างชัดเจนว่า genuine leather ไว้ที่ชิ้นงาน โดยส่วนมากจะใช้ในการผลิตเฟอร์นิเจอร์ เช่น โซฟา เก้าอี้พักผ่อน เก้าอี้ผู้บริหาร โซฟาเบด เป็นต้น หนังแท้สามารถแบ่งย่อยๆ ได้อีก 4 ชนิด คือ
1.1 Full Grain หนังชนิดนี้จะเป็นหนังชั้นบนสุดที่ไม่มีการเจียรผิวหรือขัดลวดลายออกเลย เหมาะแก่การนำไปห่อหุ้มเฟอร์นิเจอร์บริเวณด้านนอก
1.2 Split เป็นหนังที่อยู่ชั้นกลาง ซึ่งโครงสร้างของเนื้อหนังยังคงมีโครงสร้างที่ดี จึงนำไปผลิตเป็นหนัง Nubuck หรือ Suede และยังสามารถนำไปโค๊ตพียูเพื่อสร้างลวดลายเทียมได้ หนังประเภทนี้เหมาะสำหรับนำไปใช้เป็นหนังหน้าในการผลิตเครื่องหนัง
1.3 Lining เป็นหนังชั้นสุดท้าย ซึ่งมีโครงสร้างไม่เหมาะสำหรับนำไปทำหนังหน้า ส่วนใหญ่จะถูกนำไปทำซับในในผลิตภัณฑ์เครื่องหนัง
1.4 Bonded leather เป็นเศษหนังที่ถูกกักไว้ในขั้นตอนการตัดหนัง Full grain, Split และ Lining นำไปผสมกับกาวและนำมาทำเป็นม้วนหรือแผ่น หลังจากนั้นก็ผ่านการโค๊ตด้วยพียู หนังประเภทนี้สามารถนำไปใช้ได้ทุกส่วนของผลิตภัณฑ์เครื่องหนัง
2.หนังเทียม หรือ หนัง PU คือวัสดุหนังเทียม ที่ผลิตมาเพื่อใช้ทดแทนหนังแท้ โดยวัสดุหนังเทียมจะให้ความรู้สึกในการสัมผัสเหมือนกับหนังแท้ มีอายุการใช้งานยาวนาน และมีความทนทนสูง โดยจุดเด่นของวัสดุหนังเทียม คือจะมีแท็กเจอร์ลวดรวดลายราวกับหนังแท้ โดยส่วนมากนิยมใช้ในการผลิตเฟอร์นิเจอร์ เช่น โซฟา เก้าอี้ผู้บริหาร โซฟาปรับนอน เป็นต้น โดยวัสดุหนังเทียมนิยมไปใช้ในการผลิตผลิตภัณฑ์ เช่น กระเป๋าแฟชั่น เข็มขัด เป็นต้น โดยหนังแท้แบ่งออกได้ 3 ประเภทคือ
2.1 หนังเทียม PU สัมผัสใกล้เคียงกับหนังแท้มากที่สุด มีความยืดหยุ่น นุ่ม ผิวด้านนอกแบบมัน ผลิตจากพลาสติกผสมกับการทอ นิยมไปใช้ผลิต โซฟา มากสุด
2.2 หนังเทียม PVC เกรดต่ำสุด ราคาถูกที่สุด ทนต่อการขูด สัมผัสนุ่ม นิยมไปใช้ในการผลิต เก้าอี้ โซฟา กระเป๋า
2.3 หนังเทียมประสม PU + PVC เป็นการนำจุดเด่นของ PU และ PVC มาประสมกัน คุณสมบัติใกล้เคียงกับหนังแท้มากสุด ในราคาที่ถูกกว่าหนังแท้ ผิวนุ่มและนิ่ม ทนทานต่อรอยขูดขีด ไม่ย้อย และคืนรูปได้ดีกว่าหนังเทียม PU[/vc_column_text][/vc_column][/vc_row]