รับบิ้วอินบ้าน คอนโด ทาวน์โฮม ทาวน์เฮ้าส์

ตัวอย่างไอเดียบิ้วอินบ้าน คอนโด ห้องต่าง ๆ

ประเภทของไม้สำหรับงานบิ้วอิน

MDF (Medium Density Fiber Board)

แผ่นใยไม้อัดความหนาแน่นปานกลาง เป็นการนำเศษไม้และชิ้นไม้ที่บดละเอียดของไม้ยางพารา ไม้ยูคาลิปตัสหรือไม้ชนิดอื่น ๆ มาผสมกับวัสดุประสาน ผ่านกระบวนการอัดเป็นแผ่นด้วยเครื่องอัดแรงดันสูงโดยใช้ความร้อน ผิวสัมผัสที่ออกมาจึงมีความเรียบเนียนและมีความแน่น

ลักษณะการใช้งาน
เหมาะสำหรับทำเฟอร์นิเจอร์บิ้วอินทั่วไปที่ไม่โดนความชื้น
เช่น ผนัง หน้าบานประตู โต๊ะ ชั้นวางของ เตียงนอน เป็นต้น

ข้อดีของไม้ MDF
– ทนทานต่อความชื้นได้พอประมาณ
– ราคาถูกกว่าไม้ HMR

ข้อจำกัดของไม้ MDF
– ไม่กันปลวก
– ไม่ควรใช้กับบริเวณที่ชื้น

HMR (High Moisture Resistance)

ใช้วิธีการผลิตเหมือนกันกับไม้ MDF แต่แตกต่างกันตรงที่การอัดประสานด้วยกาวเมลามีนชนิดพิเศษ ที่ช่วยป้องกันการบวมเมื่ออยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูง โดยเนื้อไม้มีสีเขียวนั้นทำเพื่อให้มีความแตกต่างจากไม้ MDF นั่นเอง ซึ่งเกิดจากการเพิ่มสีในกระบวนการผลิต

ลักษณะการใช้งาน
เหมาะสำหรับทำเฟอร์นิเจอร์บิ้วอินทั่วไปและเฟอร์นิเจอร์ที่โดนความชื้น
เช่น ห้องครัว ห้องน้ำ เป็นต้น

ข้อดีของไม้ HMR
– ทนทานต่อน้ำและความชื้นได้ค่อนข้างดี
– แข็งแรง รับน้ำหนักได้ดี

ข้อจำกัดของไม้ HMR
– ไม่กันปลวก
– ราคาค่อนข้างสูง

มีรูปแบบให้เลือกมากมาย

มีบริการติดตั้ง มืออาชีพ

มีบริการดูแลหลังการขาย

มีบริการวัดหน้างานฟรี

มีบริการจัดส่งและติดตั้ง

มีบริการออกแบบ 2D/3D

ออกแบบตามที่คุณต้องการ

fur

มีรูปแบบให้เลือกมากมาย

design fur

บริการออกแบบ 2D/3D

measuring

บริการวัดหน้างานฟรี

installation fur

บริการจัดส่งพร้อมติดตั้ง

after sale

ดูแลจนจบ ไม่ทิ้งงาน

final product

ออกแบบตามที่คุณต้องการ

ตัวอย่างไอเดีย บิ้วอินคอนโด

พร้อมให้คำปรึกษาฟรี!

ไม่ว่าจะเป็นห้องนอน ห้องครัว
ห้องนั่งเล่น ห้องทำงาน home office
มุมหนังสือ หรือจะเป็นมุมไหน ๆ
เราพร้อมให้คำแนะนำและยินดีให้บริการ

รวมไอเดียบิ้วอินบ้าน บิ้วอินคอนโด ทาวน์โฮม ทาวน์เฮ้าส์ ห้องต่าง ๆ

5 ขั้นตอนเตรียมพร้อม ก่อนบิ้วอินบ้าน ให้ได้บ้านสวยถูกใจ งบประมาณไม่บานปลาย

อย่างที่ทราบกันดีว่าปัจจุบันทางเลือกการตกแต่งภายในบ้าน ที่อยู่อาศัยต่าง ๆ หรือแม้กระทั่งสำนักงาน ที่ได้รับความนิยมสูงก็คือ การบิ้วอิน หรือการสร้างฟังก์ชั่นการใช้งานต่าง ๆ ขึ้นจากภายในตัวอาคาร แทนการเลือกหาเฟอร์นิเจอร์ชิ้นต่าง ๆ มาจัดวาง ซึ่งในปัจจุบันการบิ้วอินบ้านหรือบิ้วอินสำนักงานค่อนข้างได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก โดยข้อดีของการบิ้วอินก็คือ ความยืดหยุ่นในการกำหนดขนาด ดีไซน์ของฟังก์ชั่นใช้สอยส่วนต่าง ๆ ทำให้สามารถใช้สอยพื้นที่ได้อย่างคุ้มค่ามากที่สุด และได้เฟอร์นิเจอร์ที่ออกมามีรูปร่างหน้าตาสวยถูกใจกว่า แต่ขณะเดียวกันการเลือกวิธีตกแต่งแบบบิ้วอินนั้นก็ตามมาด้วยขั้นตอน และความยุ่งยากต่าง ๆ ในการดำเนินการตกแต่งมากกว่าการเลือกสรรเฟอร์นิเจอร์แบบสำเร็จรูปมาจัดวาง จึงมีบ่อยครั้งที่ผู้ตกแต่ง หรือผู้อยู่อาศัยได้เจอกับปัญหาจุกจิกต่าง ๆ ภายหลังการตกแต่ง ไม่ว่าจะเป็นปัญหางบประมาณบานปลาย ปัญหาหน้าตาสีสันของเฟอร์นิเจอร์ออกมาไม่สวยถูกใจตามที่คาดหวังไว้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากขาดการเตรียมความพร้อมที่ดีก่อนการเริ่มบิ้วอินบ้าน ในบทความนี้จึงได้นำเอา 5 ขั้นตอนเตรียมความพร้อม ก่อนเริ่มต้นบิ้วอินบ้าน ที่จะช่วยลดความยุ่งยากต่าง ๆ ในการตกแต่งลงได้ และทำให้ได้บ้านที่ออกมาสวยถูกใจตรงตามความต้องการ โดยที่งบประมาณไม่บานปลายมาบอกกล่าวให้ได้ทราบกัน

1. ปรับพื้นที่ให้พร้อมสำหรับการบิ้วอินบ้าน การเตรียมพร้อมขั้นตอนแรกที่ค่อนข้างสำคัญ และสามารถช่วยลดความยุ่งยากในการวางแผนตกแต่งได้มาก แต่ผู้ตกแต่ง ผู้อยู่อาศัยหลายคนมักมองข้ามไปก็คือ การปรับพื้น เคลียร์พื้นที่นั่นเอง ไม่ว่าจะเป็นการเคลื่อนย้ายเฟอร์นิเจอร์ชิ้นเดิมออก การรื้อถอนการติดตั้งใด ๆ ที่ไม่จำเป็น หรืออาจรบกวนการต่อเติมใหม่ที่จะเกิดขึ้น เช่น ในห้องนอนอาจมีราวแขวนหมุนห้อยสิ่งของต่าง ๆ ตู้เสื้อผ้า หรือเฟอร์นิเจอร์ชิ้นเก่าที่ไม่ต้องการแล้ว เป็นต้น การปรับพื้นที่ดังกล่าวนี้จะช่วยให้สามารถวัดขนาดพื้นที่ และวางแผนจัดวางฟังก์ชั่นต่าง ๆ ในพื้นที่แต่ละส่วนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และลดความผิดพลาดในการคาดคะเนขนาดของฟังก์ชั่นใช้สอย และเฟอร์นิเจอร์ชิ้นต่าง ๆ ที่จะบิ้วอินขึ้นมาได้

2.เลือกวัสดุที่จะใช้ ขั้นตอนเตรียมความพร้อมต่อมาถือว่าเป็นขั้นตอนสำคัญที่ผู้ตกแต่งต้องละเอียดในการตัดสินใจพอสมควร เพราะส่งผลต่องบประมาณที่จะใช้และคุณภาพของเฟอร์นิเจอร์ชิ้นต่าง ๆ โดยตรง ซึ่งก็คือ การเลือกวัสดุที่จะใช้นั่นเอง ทั้งนี้อย่างที่ทราบกันดีว่าในการบิ้วอินบ้านนั้น มีวัสดุให้ผู้ตกแต่งได้เลือกใช้หลากหลายประเภท โดยที่แต่ละประเภทก็มีคุณสมบัติ และราคาที่แตกต่างกันไป การกำหนดวัสดุที่จะใช้ให้เหมาะสมกับงบประมาณที่มี และสเปคที่ต้องการไว้ตั้งแต่แรกจึงจะช่วยให้ดำเนินการตกแต่งได้อย่างราบรื่นมากขึ้น และคุมงบได้ดีขึ้นด้วย

3. เลือกสไตล์การตกแต่งที่ต้องการ มากันที่ขั้นตอนที่ผู้ตกแต่ง ผู้อยู่อาศัยหลายคนมักพลาดไปจนทำให้บ้านออกมาไม่สวยถูกใจตรงตามความต้องการบ้าง ซึ่งก็คือ การเลือกสไตล์การตกแต่งที่ต้องการนั่นเอง ทั้งนี้โดยทั่วไปแล้วบริษัทผู้รับตกแต่งภายใน หรือช่างรับเหมางานบิ้วอินบ้านมักจะมีแบบตัวอย่างงานตกแต่งต่าง ๆ ให้ลูกค้าได้เลือกใช้เป็นแบบอ้างอิงสำหรับงานบิ้วอินบ้านของตนเอง ซึ่งก็นับว่าเป็นหนึ่งในทางเลือกที่สะดวก เพราะลูกค้าสามารถเลือกจิ้มแบบที่ถูกใจได้ทันที แต่ทว่าการเลือกแบบเฟอร์นิเจอร์ชิ้นต่าง ๆ จากตัวอย่างนี้ก็มักตามด้วยความผิดพลาดหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการได้เฟอร์นิเจอร์ชิ้นต่าง ๆ ที่มีดีไซน์ขัดกันเอง หรือได้เฟอร์นิเจอร์ที่มีรูปทรงไม่แมตช์กับพื้นที่ของเรา เป็นต้น ดังนั้นอีกหนึ่งขั้นตอนการเตรียมความพร้อมที่สำคัญก่อนการบิ้วอินบ้าน จึงเป็นการเลือกกำหนดสไตล์การตกแต่ง หรือธีมที่ต้องการให้ชัดเจนนั่นเอง

4. ลิสต์รายการฟังก์ชั่นใช้สอยที่ต้องการ หากจะแบ่งองค์ประกอบของงานตกแต่งภายใน แน่นอนว่าเราย่อมแบ่งได้เป็น 2 องค์ประกอบหลัก ๆ คือดีไซน์ หรือหน้าตาภายหลังการตกแต่ง และฟังก์ชั่น หรือประโยชน์ใช้สอยที่เราได้หลังการตกแต่งนั่นเอง ดังนั้นอีกหนึ่งขั้นตอนการเตรียมความพร้อมที่จะช่วยทำให้งานบิ้วอินบ้านออกมาตรงโจทย์ที่ต้องการมากที่สุดจึงเป็นการลิสต์รายการฟังก์ชั่นใช้สอยที่ต้องการในส่วนต่าง ๆ ของบ้านออกมาให้ครบถ้วนนั่นเอง

5. ตรวจทานขนาดของเฟอร์นิเจอร์ชิ้นต่าง ๆ อย่างที่ทราบกันดีว่าการบิ้วอินบ้านนั้นเป็นการสร้างฟังก์ชั่น หรือเฟอร์นิเจอร์ชิ้นต่าง ๆ แบบยึดติดกับโครงสร้างภายในของพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นพื้น ผนัง หรือกระทั่งเพดาน การกำหนดขนาดจึงเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้งานบิ้วอินออกมาสมบูรณ์มากขึ้น ก่อนการเริ่มบิ้วอินบ้าน ผู้ตกแต่งจึงควรต้องตรวจทานขนาดของเฟอร์นิเจอร์ชิ้นต่าง ๆ ให้ถี่ถ้วนว่าถูกต้องตรงกับขนาดพื้นที่และความต้องการของผู้อยู่อาศัยหรือไม่