ในปัจจุบันนี้การออกแบบดีไซน์ตามบ้านเรือนมีความแตกต่างกันเป็นจำนวนมาก เราจะเห็นว่าคนส่วนใหญ่จะมีการออกแบบดีไซน์ที่อยู่อาศัยในลักษณะของทรงโมเดิร์นให้ตรงกับยุคปัจจุบันมากที่สุด ในการออกแบบบ้านนั้นก็จะต้องมีการเลือกเฟอร์นิเจอร์เข้ามาเป็นส่วนประกอบ เช่น โต๊ะ เก้าอี้ ตู้ และโซฟา เป็นต้น ซึ่งในปัจจุบันนี้มักจะใช้เทคนิค Hi-Gloss เข้ามาเป็นตัวช่วยที่จะทำให้เฟอร์นิเจอร์มี”ความมันเงา”มากขึ้น ก่อนอื่นเลยเราจะต้องทราบถึงลักษณะ และคุณสมบัติของ เทคนิค Hi-Gloss เป็นสิ่งแรก เทคนิค Hi-Gloss จะนิยมใช้กับแวดวงอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์เป็นส่วนมาก ในการผลิตเฟอร์นิเจอร์ด้วยเทคนิค Hi-gloss ชนิดนี้จะมีความคงทน แข็งแรง และสามารถกันรอยขีดข่วนรวมถึงกันคราบสิ่งสกปรกได้อีกด้วย เหมาะสำหรับคนที่รักบ้าน เพราะจะทำให้สีของเฟอร์นิเจอร์มีความมันเงา แม้ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนก็จะดูไม่น่าเบื่อ และยังคงมีความสวยงานอยู่ตลอด เทคนิค Hi-Gloss จะมีลักษณะเด่น ๆ คือ มีความเงางาม และยังสามารถจำแนกสีตามการสะท้อนแสงกับพื้นผิวของวัตถุเหล่านั้นได้
การใช้เทคนิค Hi-Gloss ยังสามารถใช้ได้กับการตกแต่งภายในจำพวกเฟอร์นิเจอร์บิวท์อิน (Built-in Furniture) และเฟอร์นิเจอร์ลอยตัว (Loose Furniture) ซึ่งทั้ง 2 อย่างใครหลาย ๆ คนยังงง ๆ กันอยู่ว่ามันคืออะไร เรามาดูกันว่าทั้งสองอย่างนี้มีลักษณะแตกต่างกันอย่างไรบ้าง เฟอร์นิเจอร์บิวท์อิน หรือ Built-in Furniture จะมีลักษณะในการสั่งทำเฟอร์นิเจอร์แบบเฉพาะเจาะจง หรือทำตามความต้องการ เฟอร์นิเจอร์ประเภทนี้จะไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ เช่น ชั้นวางหนังสือแบบที่ติดผนัง หรือว่าจะเป็นเคาน์เตอร์ในห้องครัว ซึ่งงานบิวท์อินจะมีความแข็งแรง และคงทนสามารถสั่งออกแบบตามการใช้งานของเราได้ ในส่วนของพื้นที่ใช้งานของเฟอร์นิเจอร์แบบบิวท์อินจะต้องเป็นพื้นที่แคบ หักมุม หรือเข้าซอกได้ อย่างเช่น ลักษณะพื้นที่ในการใช้งานตามห้องครัว หรือห้องนอน เป็นต้น ส่วนที่สองเป็นเฟอร์นิเจอร์แบบลอยตัว หรือ Loose Furniture จะมีลักษณะเด่น ๆ คือสามารถเคลื่อนย้ายจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่งได้ง่าย และมีความสะดวกสบายเป็นอย่างมาก เฟอร์นิเจอร์ชนิดนี้เราสามารถเห็นได้ตามทั่วไป อย่างเช่น โต๊ะ เก้าอี้ เตียง และตู้ เป็นต้น ซึ่งในลักษณะแบบนี้จะผลิตมาจากโรงงานเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เราสามารถนำมาจัดวางในรูปแบบที่เราต้องการได้ทันที ในการอธิบายทั้ง 2 อย่างที่กล่าวไปข้างต้นนี้ เป็นเฟอร์นิเจอร์ที่คนส่วนใหญ่จะใช้เทคนิค Hi-Gloss ค่อนข้างมาก
ไม่เพียงแต่จะนิยมในแวดวงอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์เพียงเท่านั้น การใช้เทคนิคชนิดนี้สามารถใช้ได้กับประเภทการพ่นสีตามรถยนต์ก็ได้อีกด้วย เพราะเนื่องจากการใช้เทคนิค Hi-Gloss จะมีความแข็งแรง กันรอยขีดข่วน ทนต่อความร้อน และความชื้นได้เป็นอย่างดี ขั้นตอนการผลิตเฟอร์นิเจอร์โดยใช้เทคนิค Hi-Gloss ก็คือ การพ่นสีหลาย ๆ ชั้นเพื่อความทนทาน เงางาม และความเรียบเนียนของเฟอร์นิเจอร์นั้น ๆ ให้มีความเงางาม และคงความสวยอยู่ตลอดเวลา
ในการดูและรักษาเฟอร์นิเจอร์ที่ใช้เทคนิค Hi-Gloss มีวิธีการต่าง ๆ อย่างมากมาย ในกรณีที่เรามักจะพบเจอบ่อยที่สุดมาดูกันว่าจะมีวิธีไหนที่คุณเองนั้นสามารถทำเองได้บ้าง
วิธีแรก พวกคราบมัน คราบสกปรก และคราบฝังลึก ควรใช้ฟองน้ำชุบกับน้ำยาล้างจานพอให้หมาด ๆ แล้วใช้ผ้านุ่ม ๆ ชุบน้ำสะอาด หลังจากนั้นใช้ผ้าแห้งเช็ดตามทันที คราบมันก็จะหายสนิท
วิธีที่สอง เลอะหมึกปากกา หมึกของปากกาที่เป็นเคมีมีลักษณะที่แตกต่างกัน ถ้าหากหมึกที่เลอะเป็นปากกาธรรมดา เลอะแค่ผิวชั้นนอกของสี ให้นำผ้าชุบแอลกอฮอล์แล้วเช็ดออก ถ้าหากไม่ออกก็ให้นำยางลบมาถูบริเวณหมึก ถูซ้ำ ๆ ให้เกิดความเงา หลังจากนั้นให้นำผ้าเช็ดออกถือว่าเป็นอันเสร็จ
ปัจจุบันการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่มีเทคนิค Hi-Gloss ชนิดนี้จะมีราคาค่อนข้างแพง แต่เชื่อเถอะว่าถ้าหากถามหาคุณภาพ และการออกแบบดีไซน์ที่สวยงาม รับรองว่ามีคุณภาพเหมาะสมกับราคาที่คุณเสียไปอย่างแน่นอน