หากพูดถึงกระแสนิยมในการตกแต่งบ้าน การเลือกเฟอร์นิเจอร์ในช่วงไม่กี่ปีหลังก็แน่นอนว่ากระแสที่ทำให้หลายคนต้องใช้เป็นคอนเซ็ปต์อ้างอิงก็คือกระแสมินิมอล หรือแนวคิดการตกแต่งบ้านแบบเน้นใช้ฟังก์ชั่นเท่าที่จำเป็น และให้บรรยากาศบ้านโดยรวมออกมาโล่งโปร่งสบายนั่นเอง ซึ่งด้วยแนวคิดการตกแต่งแบบมินิมอลเป็นแนวคิดที่ค่อนข้างใหม่สำหรับช่วงหลายปีก่อนหน้า และมีส่วนช่วยปฏิวัติการตกแต่งบ้าน โดยเฉพาะกับการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ภายใน(Interior Design) ให้สัมพันธ์กับคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยมากขึ้น เทรนด์มินิมอลจึงได้รับความนิยมเป็นอย่างสูงจนแทบจะกลายเป็นมาตรฐานใหม่ในแวดวงการตกแต่งบ้านและอาคารเลยทีเดียว อย่างไรก็ตามนอกเหนือจากเทรนด์มินิมอลแล้ว ล่าสุดยังมีอีกหนึ่งเทรนด์ที่หลายคนต้องคำนึงถึงในการเลือกตกแต่งบ้านแต่ละครั้ง ซึ่งก็คือเทรนด์ดิจิทัลไลฟ์สไตล์ ที่มีความสัมพันธ์กับชีวิตประจำวันของผู้อยู่อาศัยเช่นกัน เรียกว่าการแต่งบ้านในยุคสมัยใหม่นั้น นอกจากจะต้องคำนึงถึงความแมตช์กันกับสไตล์ที่ชื่นชอบ ไม่ว่าจะเป็นสไตล์มินิมอลที่เป็นเหมือน Base Design ของการตกแต่งยุคนี้ หรือสไตล์อื่นๆ แล้วก็ยังต้องคำนึงถึงความลื่นไหลในการปรับใช้งานฟังก์ชั่นต่างๆ กับกิจกรรมดิจิทัลไลฟ์สไตล์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของผู้อยู่อาศัยอีกด้วย ในบทความนี้จึงได้นำเอาเทคนิคการเลือกเฟอร์นิเจอร์ชิ้นต่างๆ ให้รองรับกับดิจิทัลไลฟ์สไตล์มาบอกกล่าวแนะนำให้หลายคนได้ใช้เป็นแนวทางในการวางแผนการตกแต่ง และเลือกซื้อเลือกหาเฟอร์นิเจอร์กัน
เลือกเฟอร์นิเจอร์ที่มีพื้นที่ หรือฟังก์ชั่นจัดวางแก็ดเจ็ตเสริม โดยทั่วแล้วในการเลือกเฟอร์นิเจอร์แต่ละชิ้นนอกจากเรื่องของดีไซนน์ หรือสไตล์แล้ว ในส่วนของพื้นที่ใช้สอยเราย่อมคำนึงถึงการจัดวางตามฟังก์ชั่นใช้งานหลัก ตัวอย่างเช่น ตู้หนังสือ/ชั้นวางหนังสือ เราก็จะคำนึงถึงพื้นที่การจัดวางหนังสือที่เพียงพอกับปริมาณหนังสือที่เรามี ตู้วางทีวี/ชั้นวางทีวี เราก็จะคำนึงถึงขนาดทีวีที่จะนำมาจัดวาง และของตกแต่งอื่นๆ อีกเล็กน้อย เป็นต้น แต่สำหรับการเลือกเฟอร์นิเจอร์ให้แมตช์กับดิจิทัลไลฟ์สไตล์ได้ดี เราจำเป็นต้องคำนึงถึงพื้นที่จัดวางแก็ดเจ็ตเสริมต่างๆ ด้วย อย่างในกรณีของตู้วางทีวี นอกจากการจัดวางทีวี และของตกแต่งเล็กๆ น้อยๆ แล้ว เรายังต้องเผื่อพื้นที่ หรือเลือกตู้ที่มีฟังก์ชั่นสำหรับจัดวางแก็ดเจ็ตอย่างเราเตอร์ WIFI ด้วย
เลือกโต๊ะทำงานที่มีฟังก์ชั่นเก็บซ่อนสายไฟ/สายต่อพ่วงอุปกรณ์ต่างๆ หนึ่งในกิจกรรมที่ถือว่ามีความสัมพันธ์กับดิจิทัลไลฟ์สไตล์ค่อนข้างมากก็คือ การทำงาน ซึ่งปัจจุบันอุปกรณ์ไอทีที่จำเป็นสำหรับการทำงานมีมากชิ้นกว่าในยุคก่อนๆ และบ่อยครั้งเราก็จำเป็นต้องมีการเชื่อมต่ออุปกรณ์ชิ้นต่างๆ เขาด้วยกัน ดังนั้นในการเลือกเฟอร์นิเจอร์อย่างโต๊ะทำงานให้สามารถรองรับไลฟ์สไตล์การทำงานแบบดิจิทัลได้อย่างลื่นไหล และไม่ทำให้ภาพรวมของพื้นที่โต๊ะทำงานดูรก จึงควรเลือกโต๊ะทำงานที่มีฟังก์ชั่นเก็บซ่อนสายไฟและสายต่อพ่วงอุปกรณ์ต่างๆ แน่นอนว่าฟังก์ชั่นดังกล่าวนี้จะช่วยให้พื้นที่โต๊ะทำงานไม่รกรุงรังไปด้วยสายต่างๆ และช่วยให้หยิบจับเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆได้สะดวก รวดเร็วมากขึ้น
เลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ชิ้นเล็กวางเสริมเพื่อเพิ่มฟังก์ชั่นใช้งาน อย่างที่ทราบกันว่าโดยทั่วไปแล้ว เฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่มักถูกออกแบบและผลิตขึ้นมาโดยคำนึงถึงฟังก์ชั่นใช้สอยหลักของตัวเฟอร์นิเจอร์ ซึ่งอาจไม่เพียงพอที่จะตอบโจทย์ฟังก์ชั่นรองอย่างการจัดวางอุปกรณ์เสริม และแก็ดเจ็ตไอทีต่างๆ ดังนั้นเราจึงอาจใช้เทคนิคการจัดวางเฟอร์นิเจอร์ชิ้นเล็กเสริมเข้าไปเพื่อให้เกิดเป็นฟังก์ชั่นใช้งานใหม่ขึ้น ตัวอย่างเช่น ใช้ฐานวางจอเสริมวางเพิ่มบนโต๊ะทำงาน เพื่อให้ได้ระยะความสูงของจอที่พอดีกับระดับสายตามากขึ้น และได้ฟังก์ชั่นจัดวางแก็ดเจ็ตเสริมต่างๆ ในพื้นที่ใต้ฐานวางจอเพิ่มด้วย เป็นต้น