เมื่อถึงเวลาที่คุณจะต้องซื้อเฟอร์นิเจอร์ใหม่ เราแนะนำให้วางแผนไว้ก่อนล่วงหน้า การที่คุณเตรียมแผนไว้แล้วจะช่วยให้คุณไม่รู้สึกเครียดเวลาซื้อเฟอร์นิเจอร์ และช่วยเพิ่มความมั่นใจได้ว่าคุณจะได้เฟอร์นิเจอร์ที่มีคุณภาพยอดเยี่ยม ดังนั้นบทความนี้เราจึงมาบอกเกี่ยวกับสิ่งที่คุณควรพิจารณาก่อนการซื้อเฟอร์นิเจอร์ โดยพิจารณาจากหัวข้อดังต่อไปนี้ไปใช้ในกระบวนการซื้อเฟอร์นิเจอร์ของคุณ

1.งบประมาณ

งบประมาณเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการพิจารณาเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ เชื่อว่าคุณไม่อยากจ่ายเงินมากจนเกินความจำเป็นในการซื้อเฟอร์นิเจอร์อย่างแน่นอน ดังนั้นคุณตั้งงบประมาณก่อนที่จะไปช้อปปิ้งเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ เราแนะนำมาให้คุณตั้งงบประมาณสำหรับรายการเฟอร์นิเจอร์ทั้งหมด หลังจากนั้นนำไปลบกับจำนวนครั้งที่คุณซื้อเฟอร์นิเจอร์ วิธีนี้จะทำให้คุณและครอบครัวของคุณ สามารถจัดแจ้งรายจ่ายได้อย่างถูกต้องและเป็นระบบมากขึ้น

สิ่งที่คุณจะต้องพิจารณาต่อไปคือ การลงทุนในการซื้อเฟอร์นิเจอร์ มีหลายคนที่เก็บเงินเพื่อไปซื้อเฟอร์นิเจอร์มือ 2 ถึงแม้ว่าวิธีนี้ทำให้คุณสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากก็จริง แต่คุณจะต้องเปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์เหล่านั้นในไม่กี่ปีข้างหน้าแน่นอน เพราะว่าเฟอร์นิเจอร์มือสองนั้น ส่วนมากจะมีอายุการใช้งานสั้น มีโอกาสเสียหายได้ง่าย และเมื่อเสียหายแล้วนำไปซ่อมได้ยาก โดยเฉพาะเฟอร์นิเจอร์ที่มีเก่ามาก ๆ จะหาวัสดุมาเปลี่ยนจึงเป็นเรื่องที่ยากมาก นี้เป็นเหตุผลว่าทำไมเราแนะนำให้ซื้อเฟอร์นิเจอร์ที่มีประสิทธิภาพสูง เพื่อให้คุณไม่ต้องเปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์ในภายหลัง ถึงแม้ว่าค่าใช้จ่ายในการซื้อเฟอร์นิเจอร์จะสูง วิธีนี้จะช่วยให้คุณสามารถประหยัดเงินได้มากในภายหลัง อีกทั้งมีการรับประกันสินค้าตลอดอายุการใช้งาน ช่วยให้คุณไม่เสียค่าใช้จ่ายในกรณีที่เฟอร์นิเจอร์เกิดเสียหาย หรือแตกหัก

2.ขนาดบ้านของคุณ

ขนาดบ้านของคุณส่งผลในเรื่องของประเภทเฟอร์นิเจอร์เป็นอย่างยิ่ง ถ้าบ้านของคุณมีพื้นที่ภายในบ้านที่มีขนาดกว้าง คุณจำเป็นจะเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่มีขนาดใหญ่ตามไปด้วย จะทำให้บ้านไม่รู้สึกโล่งหรือว่างเปล่าจนเกินไป ไม่ว่าจะเป็นการเลือกซื้อโต๊ะอาหาร รวมถึงเฟอร์นิเจอร์อื่น ๆ ด้วย เช่น เก้าอี้ เตียงนอน โต๊ะทำงาน ตู้เก็บของ และโซฟา เป็นต้น เฟอร์นิเจอร์เหล่านี้จะต้องการวางแผนในเรื่องของ ขนาด ให้เหมาะสมและพอดีกับขนาดพื้นที่ห้องของคุณ อีกหนึ่งวิธีในการวางแผนขนาด คือเราแนะนำให้ใช้ เทปกาว ในจัดแบ่งพื้นที่และวางแผนว่าเฟอร์นิเจอร์ของคุณสามารถเติมพื้นที่ว่างได้ดีหรือไม่

3.กำหนดสไตล์

สไตล์ห้องส่งผลเป็นอย่างมากในเรื่องของความรู้สึก ไม่ว่าจะเป็นเจ้าของบ้านหรือผู้เช้าห้อง คุณควรเลือกกำหนดสไตล์ห้องที่รู้สึกชอบหรือมีความสุขมากที่สุด ดังนั้นเราแนะนำให้คุณวางแผนและกำหนดสไตล์ห้องก่อนว่าต้องการรูปแบบใดก่อนที่จะไปช้อปปิ้งเฟอร์นิเจอร์ คุณสามารถดูรูปจากเว็บ Pinterest เพื่อค้นหาสไตล์ห้องที่คุณชอบ บางทีคุณอาจจะชอบห้องที่ถูกใจก็ได้ อย่างไรก็ตามคุณควรมองถึงความเป็นไปได้และความสมเหตุสมผลด้วย

คำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับ สไตล์ห้อง คือหากคุณมีผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับการบ้าน เราแนะนำให้ปรึกษาและสอบถามข้อมูลก่อน เพราะว่าผู้เชี่ยวชาญมีประสบการณ์และเข้าใจโครงสร้างเกี่ยวกับบ้านมากกว่าเราและเพื่อไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดเกี่ยวกับการออกแบบสไตล์ และได้สไตล์บ้านที่ตรงตามความต้องการของคุณอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด

จบกันไปแล้วสำหรับ 3 สิ่งที่ควรพิจารณาก่อนการซื้อเฟอร์นิเจอร์ หวังว่าจะเป็นประโยชน์ให้กับทุกคนได้บ้างนะครับ อย่างไรตามเราแนะนำให้คุณหาข้อมูลหรืออ่าน blog เกี่ยวกับเฟอร์นิเจอร์เยอะ ๆ ก่อนที่จะซื้อเฟอร์นิเจอร์ เพราะบทความเหล่านี้มีประโยชน์ให้ช่วยคุณเข้าใจเกี่ยวกับเฟอร์นิเจอร์มากขึ้น ทั้งนี้การเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์จะต้องไม่ฟุ่มเฟือยจนเกินไป ราคาเฟอร์นิเจอร์ควรอยู่ในจุดที่คุณสามารถจ่ายได้ ทาง Ofisu Furniture ยินดีขายเฟอร์นิเจอร์ในราคาถูก หากใครสนใจติดต่อ 02-408-7748

หากคุณไปคนที่ใช้เวลานอกบ้านบ่อย ๆ สิ่งที่คุณจะต้องมีคือ เฟอร์นิเจอร์นอกบ้านหรือ Outdoor Furniture เพราะเฟอร์นิเจอร์นอกบ้านช่วยในเรื่องความสะดวกสบายต่าง ๆ และประโยชน์มากมาย เช่น ใช้นอนพักผ่อนรับบรรยากาศนอกบ้าน ใช้เป็นจุดรับประทานอาหารกลางแจ้ง และใช้ตกแต่งบ้านได้อีกด้วย โดยในบทความนี้เราจะช่วยคุณสามารถเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์สำหรับใช้นอกบ้านให้มีประสิทธิภาพ รวมถึงวิธีการการออกแบบอย่างไรให้ดูสวยงามและเหมาะสมมากที่สุด

การออกแบบพื้นฐาน

สิ่งที่คุณจะต้องพิจารณาในการออกแบบมีอยู่ 2 หลักด้วยกัน คือ 1.ตำแหน่ง 2.พื้นที่ มาพูดถึงที่ตำแหน่งกันก่อน

ตำแหน่ง – ขึ้นอยู่สภาพอากาศภายในบ้านของคุณและประเภทของเฟอร์นิเจอร์ ยกตัวอย่างเช่น ถ้าบ้านของคุณมีลมแรง คุณควรเลือกวางในตำแหน่งที่โดนลมให้น้อยที่สุด และไม่ควรใช้เฟอร์นิเจอร์ที่มีน้ำหนักเบา ควรเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่น้ำหนักพอสมควร เพื่อป้องกันไม่ให้เฟอร์นิเจอร์ปลิวไปตามแรงลม ส่วนถ้าบ้านใครอากาศร้อน ควรเลือกตําแหน่งที่มีร่มเงา เช่น ใกล้เงาต้นไม้ หรือใกล้บริเวณเงาบ้านก็ได้ เป็นต้น จะช่วยให้คุณสามารถลดความร้อนได้เป็นอย่างดี

พื้นที่ – คุณจะต้องแน่ใจก่อนว่ามีพื้นที่บริเวณนั้น จะไม่เกะกะทางเดิน และสามารถเดินทางเข้าออกบ้านได้อย่างสะดวกสบาย โดยเฟอร์นิเจอร์นอกบ้านจะต้องเหมาะสมกับขนาดพื้นที่ในบ้านของคุณ เราแนะนำให้เลือกพื้นที่ในบ้านขนาดใหญ่ เพื่อที่จะสามารถวางและตกแต่งได้อย่างหลากหลายและใช้งานได้สะดวกมากยิ่งขึ้น

วิธีเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์นอกบ้าน

1.กำหนดจุดประสงค์การใช้งาน

ก่อนที่คุณจะเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์นอกบ้าน คุณจะตั้งคำถามกับตัวเองก่อนว่า จะใช้สำหรับทำอะไร ? เพราะหลายคนมีประสงค์ในการใช้เลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์นอกบ้านที่แตกต่างกัน เช่น ใช้สําหรับนอนพักผ่อนรับบรรยากาศนอกบ้าน ใช้สําหรับรับประทานอาหารกลางแจ้ง หรือใช้สำหรับตกแต่งบ้าน เป็นต้น ซึ่งหากคุณพิจารณาสิ่งเหล่านี้แล้ว จะทำให้คุณสามารถเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ได้อย่างถูกต้อง และตัดสินใจได้ง่ายมากขึ้น

2.เลือกเฟอร์นิเจอร์ให้เหมาะสมกับสภาพอากาศ

แน่นอนขึ้นชื่อว่า เฟอร์นิเจอร์นอกบ้าน คงไม่มีใครซื้อมาเพื่อใช้งานภายในบ้านอย่างแน่นอน ซึ่งการที่เราเอาเฟอร์นิเจอร์ไปไว้นอกบ้านจะต้องเจอกับสภาพอากาศต่าง ๆ มากมาย เช่น ลม ฝนตก ความชื้นและความร้อน เป็นต้น ซึ่งคุณจะต้องเตรียมพร้อมรับมือกับสภาพอากาศเหล่านั้น คุณจะต้องเลือกซื้อประเภทเฟอร์นิเจอร์นอกบ้านที่สามารถทนทานและเหมาะสมต่อสภาพอากาศได้ หรือถ้าหากเฟอร์นิเจอร์ของคุณ มีน้ำหนักที่มาก ทำให้คุณไม่สามารถย้ายไปหลบได้ ดังนั้นคุณอาจจะหาซื้อผ้าคลุมเฟอร์นิเจอร์เพื่อใช้คลุมเฟอร์นิเจอร์เวลาเกิดเหตุสภาพอากาศดังกล่าว เพื่อรักษาเฟอร์นิเจอร์ไม่ให้เสียหายจากสภาพอากาศ

3.เลือกให้เหมาะกับสมาชิกภายในครอบครัว

คุณจะต้องพิจารณาก่อนว่าเฟอร์นิเจอร์นอกบ้านเหมาะสมกับสมาชิกภายในบ้านหรือไม่ บางครอบครัวมีทั้งเด็กและผู้สูงอายุ คุณจะต้องเลือกเฟอร์นิเจอร์ให้สามารถใช้งานได้ทุกคนและปลอดภัยมากที่สุด นอกจากนี้ถ้าคุณคิดจะทำเป็นที่รับประทานอาหารนอกบ้าน คุณควรคำนึงถึงจำนวนสมาชิกภายในบ้าน ว่าเพียงพอต่อครบครัวคุณหรือไม่ มีขนาดโต๊ะและเก้าอี้เพียงพอต่อการใช้งานหรือป่าว

4.ประเภทของวัสดุ

เฟอร์นิเจอร์นอกบ้านที่นิยมกันจะมีอยู่ 3 ประเภท คือ ไม้ หวาย สแตนเลสสตีล ซึ่งทั้ง 3 วัสดุ มีคุณสมบัติที่แข็งแรง ทนทาน และทนแดด ทนฝนได้เป็นอย่างดี อย่างไรก็ตามขึ้นอยู่กับการใช้งาน ความเหมาะสม และความชอบส่วนบุคคล ยกตัวอย่างเช่น อยากได้โต๊ะรับประทานอาหารสไตล์ธรรมชาติก็ให้เลือกเป็นวัสดุประเภท หรืออยากได้เฟอร์นิเจอร์สำหรับตกแต่งบ้าน ก็เลือกเป็นหวาย เป็นต้น

จบกันไปแล้วสําหรับคู่มือการเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์นอกบ้าน หวังว่าทุกคนจะได้ไอเดียดี ๆ กลับไปบ้าง ทั้งนี่การซื้อเฟอร์นิเจอร์นอกบ้าน ควรวางแผนงบการเงินไว้ด้วย และไม่ฟุ่มเฟือยจนเกินไปนะครับ

การมีสำนักงานในบ้านเป็นเรื่องที่ดี โดยเฉพาะในช่วงวิกฤตการณ์โควิด-19 เชื่อว่าหลายคนจะต้องทำงาน Work from Home อย่างไรก็ตามการออกแบบพื้นที่การทำงานให้มีประสิทธิภาพมากที่สุดเป็นเรื่องที่ค่อนข้างท้าทายเลยทีเดียว โดยเฉพาะถ้าคุณกำลังเริ่มต้นทำงานที่บ้านหรือกำลังอัพเกรดพื้นที่การทำงานของคุณ สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ การเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ โดยวันนี้ทาง Ofisu Furniture เรามีคู่มือการซื้อเฟอร์นิเจอร์ในบ้าน สำหรับใช้ Work from Homeอย่างให้ ให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด และช่วยอำนวยความสะดวกในการทำงานในชีวิตประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

1.ตรวจสอบว่าโต๊ะทำงานเหมาะสมกับคุณ

โต๊ะเป็นเฟอร์นิเจอร์พื้นฐานที่ขาดไม่ได้เลย สำหรับการทำงานที่บ้าน ในการเลือกซื้อโต๊ะคุณจะต้องตรวจสอบให้แน่ใจก่อนว่าโต๊ะทำงานสามารถนำไปใช้ได้อย่างเหมาะสมกับคุณ ยกตัวอย่างเช่น โต๊ะมีขนาดใหญ่เกินไปกับห้องของคุณหรือไม่ , โต๊ะสามารถเก็บของหรือเอกสารเพียงพอต่อการทำงานของคุณหรือไม่ , โต๊ะสามารถจัดวางคอมพิวเตอร์ของคุณได้หรือไม่ เป็นต้น คุณควรพิจารณาสิ่งเหล่านี้ เพื่อไปประกอบการตัดสินใจในการเลือกซื้อโต๊ะ

2.เลือกใช้เก้าอี้ที่นั่งสบาย

ไม่สำคัญว่าคุณจะทำงานที่บ้านเพียงแค่ 1 ชั่วโมงหรือ 8 ชั่วโมง คุณจะต้องเลือกเก้าอี้ทำงานที่ออกแบบมาช่วยซัพพอร์ร่างกายของคุณได้ ตอนที่คุณเลือกซื้อเก้าอี้จะต้องแน่นอนก่อนว่าพอดีกับสรีระร่างกายของคุณหรือไม่และมีฟังก์ชั่นการทำงานที่คุณต้องการ เก้าอี้ทำงานที่มีคุณภาพจะต้องมีฟังก์ชั่น เช่น หมุนได้ , เอนหลังได้ และปรับระดับความสูง-ต่ำได้ เป็นต้น ยิ่งมีฟังก์ชั่นในการทางานมากเท่าไร เก้าอี้เหล่านั้นจะช่วยให้เพิ่มความสะดวกสบายได้มาก ทางที่ดีควรไปเลือกซื้อที่ร้านขายเฟอร์นิเจอร์ คุณจะสามารถทดลองก่อนว่าเก้าอี้ทํางานไหนถึงเหมาะสมกับคุณ

3.เฟอร์นิเจอร์สำหรับเก็บของต้องมี

ไม่ว่าจะเป็น ตู้เก็บของ ชั้นวางของ ตู้เหล็กเก็บเอกสาร จำเป็นจะต้องมี เพราะเฟอร์นิเจอร์เหล่านี้จะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการจัดเก็บสิ่งของได้ และช่วยให้บ้านของคุณไม่รก โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่ต้องทำงานเกี่ยวกับเอกสารเยอะ ๆ และต้องเก็บแฟ้มข้อมูลที่สำคัญ  ตู้เหล็กเก็บเอกสารจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการจัดเก็บเอกสารมากขึ้น และช่วยลดความวุ่นวายในการเก็บเอกสารได้อีกด้วย

4.แสงสว่างมีความสำคัญ

แสงไฟในบ้านมีบทบาทสำคัญในการ Work from Home เป็นอย่างมาก ดังนั้นจะต้องมั่นใจก่อนว่าที่ห้องของคุณมีสิ่งของเพิ่มความสว่างเพียงพอหรือไม่ โดยคุณอาจจะซื้อเป็นโคมไฟขนาดเล็กมาวางบนโต๊ะทำงานก็ได้ หรือติดตั้งหลอดไฟบนเพดานห้อง แสงไฟเหนือศรีษะของคุณจะต้องสว่าง แต่ไม่ควรสว่างจนสะท้อนกับจอคอมพิวเตอร์ของคุณ นอกจากนี้ถ้าห้องของคุณมีหน้าต่างก็จะช่วยเพิ่มแสงสว่างได้ดีมาก การจัดแสงสว่างที่เหมาะสมจะทำให้การทำงานเป็นระยะเวลานานจะไม่รู้ปวดตา และทําให้ประสบการณ์ทำงานในบ้านของคุณมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

การหาเฟอร์นิเจอร์ที่ใช่สำหรับ Work from Home นั้นเป็นเรื่องที่ยากมาก ดังนั้นถ้าคุณไม่มีความรู้หรือประสบการณ์ เราแนะนำให้เลือกซื้อเป็น เซตเฟอร์นิเจอร์ เพราะการซื้อเฟอร์นิเจอร์แบบเซต คุณจะได้ 2-3SET in 1 ยกตัวอย่างเช่น โต๊ะทํางาน+ตู้เก็บของ, โต๊ะทำงาน + เก้าอี้สำนักงาน และ โต๊ะทำงาน + ตู้เก็บของ + เก้าอี้สำนักงาน เป็นต้น ที่สามารถทำงานได้ เก็บของได้ และใช้งานอื่น ๆ ครบวงจร ถึงแม้ว่าวิธีนี้อาจจะต้องเสียค่าใช้จ่ายแพง แต่ถือว่าเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่า โดยเฉพาะคนที่ไม่ต้องการความวุ่นวายในการซื้อเฟอร์นิเจอร์แยกชิ้นและเป็นวิธีที่สะดวกรวดเร็ว ส่วนถ้าใครอยากประหยัดค่าใช้จ่ายในการซื้อเฟอร์นิเจอร์ สามารถสั่งผ่านเว็บไซต์ www.ofisu.co.thโรงงานของเราเน้นขายเฟอร์นิเจอร์ราคาถูกที่สุด และเฟอร์นิเจอร์ของเราแข็งแรงใช้งานได้หลายปี และใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพแน่นอน

เชื่อว่าหลายคนกำลังมองหาเฟอร์นิเจอร์สำหรับใช้งาน ภายในบ้านหรือสำนักงาน แต่ไม่รู้ว่าจะเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์มือ 1หรือมือ 2 ดีเพราะเฟอร์นิเจอร์ทั้ง 2 แบบนั้นมีความแตกต่างในเรื่องของราคาและคุณภาพ โดยวันนี้เราจึงขออาสามาบอกทุกคนเกี่ยวกับเฟอร์นิเจอร์มือ 1 และ เฟอร์นิเจอร์มือ 2 ว่ามีข้อดีและข้อเสียอะไรบ้าง เพื่อเป็นทางเลือกในการตัดสินใจเลือกซื้อให้กับคุณได้ง่ายมากขึ้น

ข้อดีของการเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์มือ 1

1.มีการรับประกันสินค้า

โดยปกติเฟอร์นิเจอร์มือ 1 จะมีประกันมาให้ ในกรณีที่เฟอร์นิเจอร์เกิดเสียหายหรือมีตำหนิสามารถแจ้งทางร้านขายเฟอร์นิเจอร์ เข้ามาซ่อมหรือเปลี่ยนใหม่ได้ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

2.เฟอร์นิเจอร์มีสภาพสมบูรณ์ 100%

เฟอร์นิเจอร์มือ 1 จะเป็นสินค้าใหม่ ร้านค้าจะมีการตรวจสอบคุณภาพก่อนส่งขายให้ผู้บริโภค ทำให้มั่นใจได้ว่าสินค้า มีความปลอดภัย แข็งแรงทนทาน ใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพแน่นอน

3.ขายต่อได้

หากคุณมีเฟอร์นิเจอร์ที่เพิ่งซื้อมาใหม่ ๆ และยังสามารถใช้งานได้ดี ไม่มีตำหนิ คุณสามารถนำไปขายต่อได้ โดยราคาที่ขายจัดว่าคุ้มค่า

ข้อเสียของการเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์มือ 1

1.ราคาแพง

แน่นอนว่าสินค้าใหม่จะต้องมีราคาแพงมากกว่าเฟอร์นิเจอร์มือ 2 อยู่แล้ว ดังนั้นหากคุณจะตัดสินใจเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์มือ 1 จะต้องศึกษาเกี่ยวกับเฟอร์นิเจอร์ให้ละเอียดและดูให้รอบคอบมากขึ้น เพื่อที่จะคุ้มค่ากับเงินที่เสียไปมากที่สุด

2.ขั้นตอนที่วุ่นวาย

การสั่งซื้อเฟอร์นิเจอร์มือ 1 อาจจะเหมาะกับคนที่ไม่ชอบความยุ่งยาก เพราะจะต้องมีการขึ้นตอนการสั่งซื้อที่หลายขั้นตอน เช่น ทำสัญญาขาย ทำประกันสินค้า และต่อรองพูดคุยกับเจ้าของร้าน เป็นต้น เมื่อเปรียบเทียบกับเฟอร์นิเจอร์มือ 2 แล้ว คุณสามารถจ่ายเงินและนำสินค้ากลับไปได้เลย

ข้อดีของการเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์มือ 2

1.ราคาถูก

เหมาะสำหรับคนที่มีงบจำกัด สามารถซื้อเฟอร์นิเจอร์ที่ต้องการ ในราคาที่ไม่แพงมาก ทำช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย และเหลือเงินไปใช้จ่ายอื่น ๆ ได้อีกด้วย

2.หาซื้อได้ง่าย

เฟอร์นิเจอร์มือ 2 นั้นมีขายมากมาย สามารถหาซื้อได้ง่าย เนื่องจากมีช่องทางขายที่ค่อนข้างเยอะ คุณสามารถเลือกหาเฟอร์นิเจอร์ที่ต้องการได้อย่างไม่ยาก อีกทั้งไม่ต้องกลัวของหมด มีให้เลือกเยอะมาก ๆ

3.มีความแปลกใหม่

เฟอร์นิเจอร์มือ 2 มีทั้งของโบราณ เฟอร์นิเจอร์ยุคเก่า ๆ มากมาย ซึ่งจัดเป็นความแปลกใหม่ และช่วยความน่าดึงดูดในการจัดตกแต่งห้องของคุณได้อีกด้วย

ข้อเสียของการเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์มือ 2

1.ไม่มีการรับประกันสินค้า

เฟอร์นิเจอร์มือ 2 ส่วนมากจะไม่มีประกันสินค้าให้ ในกรณีที่เกิดเสียหายหรือชํารุดขึ้นมา คุณจะต้องดำเนินการซ่อมเองทั้งหมด

2.ไม่เหมาะกับผู้ไม่มีประสบการณ์

เราไม่แนะนำให้ซื้อเฟอร์นิเจอร์มือ 2 หากคุณไม่มีความรู้เกี่ยวกับเฟอร์นิเจอร์เลย เพราะว่าเฟอร์นิเจอร์มือ 2 บางชนิด จะต้องอาศัยความชำนาญในการเลือก

3.ซ่อมได้ยาก

เฟอร์นิเจอร์มือ 2 เสียหายและชำรุดได้ง่าย ดังนั้นจะหาซื้ออะไหล่มาเปลี่ยนได้ยาก อีกทั้งสภาพวัสดุเฟอร์นิเจอร์บางตัวอาจจะไม่อํานวยต่อการซ่อมอีกด้วย

4.ราคาตก

เฟอร์นิเจอร์มือ 2 เมื่อซื้อมาแล้ว ต้องการขายต่อ ราคาจะตกลงไปเรื่อย ๆ ทำให้ไม่คุ้มสักเท่าไร

จบกันไปแล้วสำหรับข้อดีและข้อของเฟอร์นิเจอร์มือ 1 และ มือ 2 หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้ทุกคนสามารถเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ได้ง่ายมากขึ้น ทั้งนี้หากใครสนใจเฟอร์นิเจอร์มือ 1 สามารถสั่งซื้อผ่านเว็บไซต์ของเราได้ เฟอร์นิเจอร์ของเรามีมากมาย เช่น โต๊ะ ตู้ เก้าอี้ และอื่น ๆ อีกมากมาย และยังมีบริการบิวท์อิน ติดตั้งงานกระจก หากใครสนใจสามารถเข้าไปดูที่เว็บไซต์ www.ofisu.co.th หรือจะโทรติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เบอร์ 02-409-7748

สำหรับใครที่อยู่ในบ้านหรือห้องที่มีขนาดเล็ก เชื่อว่าจะต้องเจอปัญหาต่าง ๆ มากมาย เช่น ห้องรก เดินลำบาก และรู้สึกอึดอัด เป็นต้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่พักอาศัย ในห้องเช่า คอนโด หรือหอพัก หลีกเลี่ยงไม่ได้เลย เพราะส่วนมากสถานที่เหล่านี้จะถูกออกแบบมาให้มีห้องขนาดเล็ก ไม่มีสิทธิที่จะไปต่อเติมหรือขยายพื้นที่ได้ แต่สามารถแก้ปัญหาโดยการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ โดยบทความนี้เราจึงจะมาบอกวิธีการเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ให้ประหยัดพื้นที่ภายในห้องมากที่สุด เพื่อเป็นประโยชน์สำหรับคนที่กำลังตัดสินใจเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์มาใช้ในห้องได้สามารถเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ได้อย่างถูกต้อง และคุ้มค่ามากที่สุด

1.เลือกใช้เฟอร์นิเจอร์บิวท์อิน

เฟอร์นิเจอร์บิวท์อินได้รับความนิยมมากในการนำไปใช้ภายในห้อง เพราะนอกจากสามารถประหยัดพื้นที่ได้แล้วยังสามารถนำไปใช้ตกแต่งห้องให้มีความสวยงามได้อีกด้วย และเฟอร์นิเจอร์บิวท์อินสามารถที่จะสามารถปรับแต่งเฟอร์นิเจอร์ได้อย่างอิสระ โดยเฟอร์นิเจอร์บิ้วท์อินหลัก ๆ ที่นิยมใช้ คือ

• ชั้นวางของติดผนัง เป็นการติดชั้นวางของไว้ตามผนังห้อง ข้อดีคือ ไม่เกะกะขว้างทางเดิน อีกทั้งช่วยในเรื่องของการตกแต่งภายในห้องให้สวยงาม และทำให้ห้องมีระเบียบมากยิ่งขึ้น
• โซฟาลิ้นชัก โซฟาบางรุ่นออกแบบมาให้มีลิ้นชัก เอาไว้สำหรับเก็บสิ่งของต่าง ๆ ได้ เช่น เสื้อผ้า หรือของใช้ส่วนตัว ได้อย่างเป็นระเบียบ ข้อดีคือทำให้ ไม่ต้องไปซื้อตู้เก็บหรือตู้เสื้อผ้า เรียกได้ว่าสามารถที่จะพักผ่อนพร้อมกับการเก็บสิ่งของต่าง ๆ ได้มากมาย
• เตียง 2 ชั้น เหมาะมากสำหรับครอบครัวที่มีลูกหลายคน การมีเตียง 2 ชั้นจะช่วยในเรื่องของการประหยัดพื้นที่ได้เป็นอย่างดี และเตียง 2 ชั้นบางรุ่นมีลิ้นชักสำหรับเก็บของ ทำให้สามารถเก็บสิ่งของต่าง ๆ ได้อย่างสะดวกมากยิ่งขึ้น

2.เลือกใช้เฟอร์นิเจอร์พับเก็บได้

เป็นอีกหนึ่งเฟอร์นิเจอร์ที่ตอบโจทย์ในเรื่องของการประหยัดพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่ชอบย้ายของในห้องบ่อย ๆ จะช่วยประหยัดแรงได้ และเพิ่มความสะดวกรวดเร็วมากขึ้น  เฟอร์นิเจอร์พับเก็บยก ตัวอย่างเช่น โต๊ะพับ เก้าอี้พับ เป็นต้น และเฟอร์นิเจอร์แบบพับเก็บได้หลังจากใช้งานเสร็จแล้ว สามารถพับเก็บไว้ในห้องเก็บของ ช่วยประหยัดพื้นที่ได้มากเลยทีเดียว

3.เลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ล้อเลื่อน
เฟอร์นิเจอร์ล้อเลื่อน เช่น โต๊ะ เก้าอี้ หรือชั้นวางของ เป็นต้น ตอบโจทย์ในเรื่องของการเคลื่อนย้ายที่สะดวกรวดเร็ว และประหยัดพื้นที่ภายในห้องได้ อีกทั้งใช้งานได้หลากหลายครอบคลุม ยกตัวอย่างเช่น โต๊ะล้อเลื่อน สามารถที่จะใช้เป็นโต๊ะอ่านหนังสือ หรือใช้เป็นโต๊ะสำหรับทานอาหารก็ได้ ทำให้ไม่ต้องซื้อโต๊ะหลายตัว ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้อีกด้วย

4.เลือกใช้เฟอร์นิเจอร์แนวสูง

หลายคนชอบเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่เน้นความกว้าง แต่ความจริงแล้วถ้าห้องของคุณมีขนาดเล็ก เราแนะนำให้ให้เลือกเป็นเฟอร์นิเจอร์ทรงสูงมากกว่า เพราะจะช่วยให้ห้องของคุณมีพื้นที่กว้างมากขึ้น ลดปัญหาห้องคับแคบ จนรู้สึกอึดอัด ทางที่ดีเราแนะนำให้ใช้เฟอร์นิเจอร์ทรงสูงไม่ว่าจะเป็น ตู้เสื้อผ้า ตู้เก็บของ และ ชั้นวางของ เป็นต้น

5.เลือกใช้เฟอร์นิเจอร์บานเลื่อน

สำหรับเฟอร์นิเจอร์เก็บของ ไม่ว่าจะเป็น ตู้เก็บ ตู้เสื้อผ้า ตู้รองเท้า หรือลิ้นชัก จะมีประตูบานเปิดที่แตกต่างกันออกไป เช่น แบบดึง แบบเลื่อน เป็นต้น เราแนะนำให้ใช้เป็นแบบ ประตูบานเลื่อน เพราะว่าประตูบานเลื่อนเวลาเปิด คุณสามารถที่จะเลื่อนซ้ายหรือขวาได้อย่างอิสระ ช่วยประหยัดพื้นที่ได้ดีเลยทีเดียว

6.เลือกใช้เฟอร์นิเจอร์แบบโปร่ง

การเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์แบบโปร่ง เป็นการทำให้ห้องของคุณรู้สึกกว้างมากขึ้น เช่นเลือกสีเฟอร์นิเจอร์ที่สว่าง ไม่ทึบเกินไป และเฟอร์นิเจอร์จะต้องไม่ไปบังวิสัยทัศน์ภายในบ้าน ยกตัวอย่างเช่นถ้าคุณซื้อเตียงนอน ก็เลือกแบบที่มีขา ไม่ควรเลือกแบบทึบ รวมถึงขาโต๊ะ เก้าอี้ รวมถึงชั้นวางของก็ด้วยเช่นกัน

ห้องนอน จัดเป็นห้องที่มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เพราะว่าห้องนอนเปรียบเสมือนสถานที่ไว้สำหรับพักผ่อน คลายเครียดหลังจากการใช้ชีวิตประจำวันไม่ว่าจะเป็น การทำงาน การเรียน การเดินทาง เชื่อว่าทุกคนจะต้องนึกถึง ห้องนอน เป็นอันดับแรกอย่างแน่นอน ซึ่งห้องนอนนั้นจำเป็นที่จะต้องมี เฟอร์นิเจอร์สำหรับห้องนอน เป็นองค์ประกอบสำคัญ โดยบทความนี้เราจะมาบอกวิธีการเลือกซื้อ เฟอร์นิเจอร์สำหรับห้องนอน เพื่อช่วยเพิ่มบรรยากาศ ความสวยงาม และการพักผ่อนได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากที่สุด เหมาะสำหรับคนที่กำลังตัดสินใจเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ สามารถตัดสินใจเลือกซื้อได้ง่านมากขึ้นและตอบสนองต่อการใช้งานในห้องนอนมากที่สุด

1.วิธีการเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์เตียงนอน

แน่นอนว่าห้องนอน สิ่งที่สำคัญที่ขาดไม่ได้เลยนั้นก็คือ เตียงนอน ซึ่งเฟอร์นิเจอร์เตียงนอนนั้นมีมากมายหลากหลายประเภทมาก เช่น เตียงนอนเดียว เตียงนอนคู่ เตียงสองชั้น เป็นต้น ดังนั้นเราจะต้องเลือกเฟอร์นิเจอร์เตียงนอนที่เหมาะสมกับตัวเองมากที่สุด ซึ่งวิธีการเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์เตียงนอนนั้น อันดับแรกที่ต้องคำนึงถึงคือ ขนาดเตียงนอน เพราะเนื่องจากสรีระร่างกายของคนเราแตกต่างกัน เช่น ถ้าคุณเป็นคนตัวใหญ่จะต้องเลือกเตียงนอน จะมีขนาดความกว้างและความสูงมากกว่าคุณเล็กน้อย เพื่อให้เหลือพื้นที่ว่างในการยืดเส้นยืดสาย และสามารถนอนได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากขึ้น ในส่วนของการวางเตียงนอนในห้อง จะต้องเหลือพื้นที่ว่างด้านซ้ายและด้านขวาเล็กน้อย เพื่อให้สามารถขึ้นลงเตียงนอนได้ อันดับต่อมาในการเลือกเตียงนอนคือ ขาเตียงนอน หลัก ๆ แล้วจะมีอยู่ 2 ประเภท คือ 1.เตียงขาโปร่ง 2.เตียงขาทึบ ซึ่งเตียงทั้ง 2 แบบจะมีความแตกต่างกันในเรื่องของน้ำหนัก เราแนะนำว่าถ้าห้องของคุณมีขนาดเล็ก ควรเลือกเป็นเตียงนอนขาโปร่ง เพราะจะทำให้ห้องไม่รู้สึกอึดอัด ส่วนถ้าใครชอบแบบแข็งแรง มั่นคง และมีห้องที่กว้าง ให้เลือกเป็นเตียงขาทึบ จะดีที่สุด

2.วิธีการเลือกเฟอร์นิเจอร์ตู้เสื้อผ้า

ตู้เสื้อผ้าจัดเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่ขาดไม่ได้เลยในห้องนอน เพราะว่าตู้เสื้อผ้ามีประโยชน์ในเรื่องของการเก็บเสื้อผ้าและสำภาระ ได้มากมาย และเป็นตู้เก็บของต่าง ๆ ได้อีกด้วย ช่วยให้ห้องนอนของคุณไม่รกอีกด้วย อีกทั้งตู้เสื้อผ้าสามารถนําไปตกแต่งห้องนอนของคุณได้อย่างลงตัว โดยตู้เสื้อผ้าจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ 1.แบบลิ้กชัก 2.แบบประตูเปิดปิด เราแนะนำง่าย ๆ คือถ้าห้องของคุณขนาดเล็ก เลือกเป็นแบบลิ้กชัก เพราะตู้เสื้อผ้าแบบลิ้กชักมีประโยชน์ในการเรื่องของการประหยัดพื้นที่ ไม่อึดอัด แต่อาจจะเก็บของได้น้อย ส่วนถ้าใครอยากได้เก็บของได้เยอะ ๆ ให้เลือกเป็นตู้เสื้อผ้าแบบประตูเปิดปิดก็ได้เช่นกัน แต่พื้นที่ห้องของคุณจะต้องกว้างพอสมควร นอกจากตู้เสื้อผ้าสามารถ บิ้วอิน ได้อีกด้วย โดยข้อดีคือ ช่วยในเรื่องของการประหยัดพื้นที่ ป้องกันฝุ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ และทำความสะอาดง่ายมากขึ้นอีกด้วย

3.วิธีการเลือกเฟอร์นิเจอร์โต๊ะ

โต๊ะมีประโยชน์มากสำหรับห้องนอน เพราะว่าช่วยให้คุณสามารถวางสัมภาระต่าง ๆ บนโต๊ะได้ สะดวกในการหยิบใช้งานได้สะดวกมากขึ้น และสามารถจัดเก็บสิ่งของได้มาก เป็นระเบียบเรียบร้อยมากขึ้น และเหมาะสำหรับคนทำงานหรือนักเรียน สามารถใช้เป็นโต๊ะสำหรับทำงาน อ่านหนังสือ ทำการบ้าน หรือจะใช้เป็นโต๊ะเครื่องแป้งได้อีกด้วย เรียกได้ว่าการมีโต๊ะใช้งานในห้องนอนจัดว่าคุ้มค่าในการใช้งานในชีวิตประจำวันแน่นอน โดยการเลือกซื้อโต๊ะจะต้องดู ขนาด ให้เหมาะสมกับพื้นที่ภายในห้องนอนของคุณด้วย และโต๊ะยังสามารถนำไปตกแต่งห้องนอนให้มีความสวยงาม เสริมบรรยากาศภายในห้องให้ดูดีอีกด้วย นอกจากนี้โต๊ะยังสามารถประยุกต์ใช้เป็นโต๊ะเครื่องแป้งได้อีกด้วย เอาไว้สำหรับแต่งหน้า ทำผม ได้สะดวกมากขึ้น หากใครสนใจสามารถสั่งผ่านเว็บไซต์ของเราของ หรือจะโทรมาติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ 034-877-141 ได้ตลอด 24