หนัง เรียกได้ว่าเป็นวัสดุที่นิยมใช้ย่างแพร่หลายในปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์หรือสินค้าต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น เสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า เข็มขัด โดยเฉพาะกับเฟอร์นิเจอร์ เช่น โซฟา เก้าอี้สํานักงาน หรือ เก้าอี้ผู้บริหาร เป็นต้น โดยส่วนมากสินค้าเหล่านี้จะใช้วัสดุที่ ทำมาจากหนัง เพราะว่าเฟอร์นิเจอร์ที่ทำมาหนัง จะให้ความสวยงาม หรูหรา และมีความทนทาน ใช้งานได้ยาวนาน อีกทั้งนำไปตกแต่งบ้านได้หลากหลายสไตล์ ไม่ว่าจะเป็น สไตล์ทันสมัย สไตล์มินิมอล หรือสไตล์คลาสสิก เรียกได้เลยว่า เฟอร์นิเจอร์หนัง จึงเป็นที่ชื่นชอบของใครหลาย ๆ คนเลยทีเดียว ซึ่งวันนี้เราจะมาให้ความรู้เกี่ยว เฟอร์นิเจอร์หนัง ว่ามีกี่ประเภท และคุณสมบัติต่าง ๆ ของเฟอร์นิเจอร์หนังประกอบไปด้วยอะไรบ้าง เพื่อให้ทุกคนได้เข้าใจและทำความรู้จักเกี่ยวกับเฟอร์นิเจอร์หนังมากยิ่งขึ้น สำหรับคนที่ชื่นชอบวัสดุหนังไม่ควรพลาด เราไปเริ่มเนื้อหากันเลย

วัสดุหนัง ที่ใช้ในการผลิต เฟอร์นิเจอร์ ไม่ได้มีแค่ หนังแท้ เพียงอย่างเดียว แต่ยังมีหนังประเภทอื่น ๆ ด้วย เพื่อผลิตขึ้นมาทดแทน หนังแท้ ซึ่งวัสดุหนัง ที่ใช้ในการผลิตเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ ในปัจจุบันแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักใหญ่ ๆ คือ หนังแท้และหนังเทียม ซึ่งคุณสมบัติของวัสดุหนังแท้กับหนังเทียม จะมีว่าแตกต่างกันอย่างไร

1.หนังแท้ หนังแท้ เป็นหนังที่ได้มาจากสัตว์ เช่น หนังม้า หนังจระเข้ หนังปลากระเบน หนังนกกระจอกเทศ หนังวัว เป็นต้น โดยนำผิวหนังของสัตว์เหล่านั้นมาผ่านกระบวนการฟอกเพื่อไม่ให้เน่าเปื่อย หนังแท้จะมีลวดลายเป็นธรรมชาติ และไม่มีรอยต่อ ซึ่งบางครั้งหนังแท้จะมีการปั๊ม logo อย่างชัดเจนว่า genuine leather ไว้ที่ชิ้นงาน โดยส่วนมากจะใช้ในการผลิตเฟอร์นิเจอร์ เช่น โซฟา เก้าอี้พักผ่อน เก้าอี้ผู้บริหาร โซฟาเบด เป็นต้น หนังแท้สามารถแบ่งย่อยๆ ได้อีก 4 ชนิด คือ

1.1 Full Grain หนังชนิดนี้จะเป็นหนังชั้นบนสุดที่ไม่มีการเจียรผิวหรือขัดลวดลายออกเลย เหมาะแก่การนำไปห่อหุ้มเฟอร์นิเจอร์บริเวณด้านนอก

1.2 Split เป็นหนังที่อยู่ชั้นกลาง ซึ่งโครงสร้างของเนื้อหนังยังคงมีโครงสร้างที่ดี จึงนำไปผลิตเป็นหนัง Nubuck หรือ Suede และยังสามารถนำไปโค๊ตพียูเพื่อสร้างลวดลายเทียมได้ หนังประเภทนี้เหมาะสำหรับนำไปใช้เป็นหนังหน้าในการผลิตเครื่องหนัง

1.3 Lining เป็นหนังชั้นสุดท้าย ซึ่งมีโครงสร้างไม่เหมาะสำหรับนำไปทำหนังหน้า ส่วนใหญ่จะถูกนำไปทำซับในในผลิตภัณฑ์เครื่องหนัง

1.4 Bonded leather เป็นเศษหนังที่ถูกกักไว้ในขั้นตอนการตัดหนัง Full grain, Split และ Lining นำไปผสมกับกาวและนำมาทำเป็นม้วนหรือแผ่น หลังจากนั้นก็ผ่านการโค๊ตด้วยพียู หนังประเภทนี้สามารถนำไปใช้ได้ทุกส่วนของผลิตภัณฑ์เครื่องหนัง

2.หนังเทียม หรือ หนัง PU คือวัสดุหนังเทียม ที่ผลิตมาเพื่อใช้ทดแทนหนังแท้ โดยวัสดุหนังเทียมจะให้ความรู้สึกในการสัมผัสเหมือนกับหนังแท้  มีอายุการใช้งานยาวนาน และมีความทนทนสูง โดยจุดเด่นของวัสดุหนังเทียม คือจะมีแท็กเจอร์ลวดรวดลายราวกับหนังแท้ โดยส่วนมากนิยมใช้ในการผลิตเฟอร์นิเจอร์ เช่น โซฟา เก้าอี้ผู้บริหาร โซฟาปรับนอน เป็นต้น โดยวัสดุหนังเทียมนิยมไปใช้ในการผลิตผลิตภัณฑ์ เช่น กระเป๋าแฟชั่น เข็มขัด เป็นต้น โดยหนังแท้แบ่งออกได้ 3 ประเภทคือ

2.1 หนังเทียม PU สัมผัสใกล้เคียงกับหนังแท้มากที่สุด มีความยืดหยุ่น นุ่ม ผิวด้านนอกแบบมัน ผลิตจากพลาสติกผสมกับการทอ นิยมไปใช้ผลิต โซฟา มากสุด

2.2 หนังเทียม PVC เกรดต่ำสุด ราคาถูกที่สุด ทนต่อการขูด สัมผัสนุ่ม นิยมไปใช้ในการผลิต เก้าอี้ โซฟา กระเป๋า

2.3 หนังเทียมประสม PU + PVC เป็นการนำจุดเด่นของ PU และ PVC มาประสมกัน คุณสมบัติใกล้เคียงกับหนังแท้มากสุด ในราคาที่ถูกกว่าหนังแท้ ผิวนุ่มและนิ่ม ทนทานต่อรอยขูดขีด ไม่ย้อย และคืนรูปได้ดีกว่าหนังเทียม PU[/vc_column_text][/vc_column][/vc_row]

เชื่อว่าหลายคนต้องการที่จะซื้อ เฟอร์นิเจอร์ แต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไร ไม่มีความรู้เกี่ยวกับเฟอร์นิเจอร์ และมีข้อควรระวังหรือปัจจัยอะไรที่ควรคำนึงถึงก่อนจะซื้อเฟอร์นิเจอร์หรือไม่ เนื่องจากการซื้อเฟอร์นิเจอร์จะต้องมีความเข้าใจในรายละเอียดต่าง ๆ เช่น การเลือกวัสดุ คุณภาพ การใช้งาน เป็นต้น วันนี้เรามาทำความรู้จักเกี่ยวกับ 7 สิ่งที่ควรรู้ก่อนการซื้อเฟอร์นิเจอร์ เพื่อให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด ได้ราคาที่ถูกที่สุด และไม่ถูกหลอกลวงจากผู้ค้า หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับคนที่เริ่มต้น สั่งซื้อเฟอร์นิเจอร์ ได้เกิดความรู้และเข้าใจกระบวนการที่ถูกต้องของการซื้อเฟอร์นิเจอร์ได้มากเลยทีเดียว

1. กำหนดวัตถุประสงค์การใช้งานของเฟอร์นิเจอร์

การเลือกซื้อ เฟอร์นิเจอร์ คุณต้องวางขอบเขตการใช้งานของเฟอร์นิเจอร์ก่อนว่านำไปใช้ทำอะไร ที่ไหน อย่างไร ยกตัวอย่างเช่น คุณต้องการโต๊ะที่ไว้สำหรับทานอาหารพร้อมกันกับครอบครัว สิ่งที่คุณต้องคำนึงถึงคือจำนวนสมาชิกในครอบครัว เช่น ถ้าครอบครัวของคุณมีสมาชิก 5 คน ก็เลือกโต๊ะที่มีขนาดใหญ่ เพื่อจะได้เพียงพอต่อสมาชิกภายในครอบครัว เป็นต้น ถ้าเราสามารถกำหนดขอบเขตการใช้งานได้ จะทำให้เราสามารถเลือกเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดายมากขึ้น

2. วางแผนงบประมาณ

การที่เราวางแผนงบประมาณเอาไว้ล่วงหน้า เป็นสิ่งที่ดี เนื่องจากจะทำให้เราไม่ฟุ่มเฟือย และประหยัดเงินได้มาก ซึ่งบางที่บางร้านอาจจะให้ราคาที่แพงจนเกินไป คุณสามารถหาร้านอื่น ๆ ที่ให้ราคาที่ถูกกว่าได้ หรือหาร้านที่จัดโปรโมชัน เพื่อจะได้เฟอร์นิเจอร์ในราคาที่พอใจมากที่สุด และการตั้งงบประมาณต้องคำนึงถึงความเหมาะสมของเฟอร์นิเจอร์ด้วย ไม่ถูกมากและแพงเกินไป ควรอยู่ในจุดกึ่งกลางความเหมาะสมของเฟอร์นิเจอร์นั้น ๆ

3. ทดลองก่อนซื้อมาใช้งาน

หากใครไม่แน่ใจว่าเฟอร์นิเจอร์ที่เราจะซื้อมีความเหมาะสมหรือไม่ แนะนำให้ทดลองใช้งานก่อนที่จะซื้อ เพราะการที่เราได้ทดลองใช้งาน หรือได้ไปสัมผัส จะทำให้เรารับรู้ถึงรายละเอียดต่าง ๆ ของเฟอร์นิเจอร์ได้ครบถ้วน และชัดเจนมากขึ้น

4. เลือกร้านที่มีการรับประกันสินค้า

ทุกวันนี้ร้านขายเฟอร์นิเจอร์มีให้คุณเลือกมากมายหลากหลายร้าน โดยแต่ละร้านก็จะมีโปรโมชั่นในการดึงดูดลูกค้าที่แตกต่างกันไป ซึ่งบางร้านอาจจะมีราคาที่ถูกก็จริงแต่อาจจะไม่มีการรับประกันสินค้าก็ได้ ดังนั้นควรมีการสอบถามกับทางร้านค้าให้ดีก่อนซื้อ และเช็คให้แน่ใจว่าร้านค้ามีการรับประกันสินค้า เพื่อเวลาเฟอร์นิเจอร์มีปัญหาสามารถให้ส่งให้ทางร้านเครมได้ และลดการกังวลในเรื่องของการเสียหายของเฟอร์นิเจอร์ได้อีกด้วย

5. เฟอร์นิเจอร์มีความปลอดภัย แข็งแรง หรือไม่

ก่อนที่จะซื้อเฟอร์นิเจอร์ ต้องตรวจเช็คให้แน่ใจก่อนว่า เฟอร์นิเจอร์มีความแข็งแรง ปลอดภัยหรือไม่ ยิ่งถ้าสถานที่ไหนมีเด็กเล็ก และไม่ตรวจเช็คความปลอดภัยเฟอร์นิเจอร์ จะทำให้มีโอกาสเสี่ยงให้เกิดอันตรายได้ รวมถึงวัสดุที่ใช้ก่อให้เกิดสารพิษรึไม่ ความปลอดภัยของเฟอร์นิเจอร์ควรให้ความสำคัญมากว่าความสวยงามของเฟอร์นิเจอร์เสมอ

6. บริการของทางร้านค้า

การเลือกร้านที่มีบริการพิเศษจะช่วยอำนวยความสะดวกได้มาก เช่น บริการซ่อมแซม บริการจัดส่งถึงที่บ้าน บริการช่วยขนย้าย ปริการประกอบเฟอร์นิเจอร์ เป็นต้น บางร้านอาจจะมีบริการพิเศษแบบฟรี ๆ เพราะฉะนั้นควรมีการสอบถามทางร้านหรือหาร้านที่ใช่ก่อนลงมือสั่งซื้อเฟอร์นิเจอร์

7. เลือกเฟอร์นิเจอร์ให้เหมาะสมกับผู้ใช้งาน

ไม่ว่าจะเป็น ผู้สูงอายุ เด็ก ผู้ใหญ่ จะต้องเลือกเฟอร์นิเจอร์ให้เหมาะสมกับช่วงวัยของผู้ใช้งาน เช่น เก้าอี้ที่ผู้สูงอายุนั่งแล้วไม่เกิดอาการปวดหลัง หรือ เก้าอี้สำหรับเด็ก จะต้องมีความสูงไม่มากจนเกินไป เป็นต้น

สำหรับใครที่กำลังเฟอร์นิเจอร์ราคาถูก เช่น โต๊ะทำงาน เก้าอี้ผู้บริหาร และตู้เก็บของ เป็นต้น สามารถสั่งซื้อผ่านทางเว็บไซต์ของเราได้ สามารถสั่งซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ได้ง่าย ๆ การขนส่งรวดเร็ว และบริการประกอบเฟอร์นิเจอร์ให้ฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่ายในการบริการ

ทุกวันนี้ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า เฟอร์นิเจอร์ที่ผลิตโดยใช้วัสดุประเภทไม้ เป็นที่นิยมในตลาดเป็นอย่างมาก เนื่องจากเฟอร์นิเจอร์ไม้มีความสวยงาม ให้ความเป็นธรรมชาติและยังมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นกว่าวัสดุประเภทอื่น ๆ อีกทั้งเฟอร์นิเจอร์ไม้มีความแข็งแรงทนทานสูง โดยส่วนมากแล้วเฟอร์นิเจอร์ไม้จะถูกใช้ในการผลิตเฟอร์นิเจอร์ประเภทต่าง ๆ มากมาย ยกตัวอย่างเช่น โต๊ะทำงาน เตียงนอน ตู้เก็บของ เก้าอี้ เคาน์เตอร์ต้อนรับ เป็นต้น ซึ่งวันนี้เราจะมาทำความรู้จักเกี่ยวกับเฟอร์นิเจอร์ไม้แต่ละเภทว่ามีคุณสมบัติอะไรบ้าง และจุดเด่น ข้อด้อย เพื่อเป็นความรู้ในการประกอบการพิจารณาในการการเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ไม้อย่างมีคุณภาพ และเหมาะสมกับการใช้งานในยุคสมัยปัจจุบันมากที่สุด

1.ไม้ MDF

ย่อมาจากคำว่า Medium Density Fiberboard คือแผ่นใยไม้อัดที่มีความหนาแน่นในระดับปานกลาง โดยเกิดจากกระบวนการอัดแน่นหรือบีบอัดของเศษไม้ขี้เลื่อยและไม้ยูคาลิปตัส พร้อมกับความร้อน โดยใช้เครื่องจักรเฉพาะทางที่มีแรงอัดสูง ความหนาแน่นจะอยู่ประมาณ 500 กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตรขึ้นไป จุดเด่นของไม้ MDF คือมีความแข็งแรง ทนทานเทียบเท่ากับไม้จริง สามารถนำไปผลิตเป็นรูปทรงเฟอร์นิเจอร์ไม้ต่าง ๆ ได้ง่าย ผิวละเอียดเรียบเนียน และสามารถพ่นสีลงเข้าไปในเนื้อไม้ได้ ข้อด้อยของไม้ MDF คือต้องระวังการโดนน้ำเพราะจะทำให้เกิดความชื้น และเวลาตัดไม้จะมีฝุ่นค่อนข้างมาก ช่างไม้หรือผู้ใกล้เคียงต้องระวังให้ดี อีกทั้งยังไม่มีความทนทานถ้าเทียบกับแผ่นไม้ประเภทอื่น ๆ โดยส่วนมากแล้วไม้ MDF จะถูกใช้ในการผลิตวัสดุที่ทำมาจาก เช่น โต๊ะทำงาน โต๊ะผู้บริหาร เป็นต้น

2.ไม้ปาติเกิ้ล

เกิดจาการนำเศษไม้ยางพารา ขนาดเล็ก มาบดอัดกลายเป็นแผ่น จากนั้นผ่านกระบวนการขั้นตอนทางเคมีที่ใช้กาวและสารอื่น ๆ มาอัดแน่นจนกลายเป็นไม้ จุดเด่นของไม้ปาติเกิล หาซื้อได้ง่าย มีขายทั่วไปในตลาด ราคาถูก และมีน้ำหนักเบา ข้อเด้ยของไม้ปาติเกิ้ล ไม้ไม่สามารถโดนน้ำได้ ถ้าโดนน้ำอาจเกิดการเปื่อย ยุ่ยได้ และไม้ปาติเกิ้ลไม่สามารถพ่นสีลงเนื้อไม้ได้ และต้องมั่นดูแลความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ เนื่องจากไม้ปาติเกิ้ลเกิดเชื้อราได้ง่าย โดยส่วนมากแล้วไม้ปาติเกิ้ลจะถูกใช้ในการทำเฟอร์นิเจอร์ เช่น ตู้เก็บของ โต๊ะทำงาน ชั้นวางของ เป็นต้น

3.ไม้สัก

ไม้สักเป็นไม้ที่นิยมในการสร้างบ้านไม้เรือนไทย และเหมาะสำหรับทำเครื่องเรือนตกแต่งบ้าน จัดเป็นไม้ที่มีความแข็งแรง ทนทานมากกว่าแผ่นไม้เนื้อแข็งหลาย ๆ ประเภท แถมแผ่นไม้สักเป็นแผ่นไม้ที่มีความเป็นเอกลักษณ์ มีลวดลายที่เป็นธรรมชาติ จุดเด่นของไม้สักคือสามารถป้องกันปลอกและมดกัดกินได้ และมีความแข็งแรง ทนทานสูง มีความต้านทานการผุผัง อายุใช้งานยาวนาน ในส่วนของข้อด้อยของไม้สักคือ เป็นรอยขีดข่วนได้ง่าย ราคาแพง เป็นต้น โดยส่วนมากแล้วไม้สักนิยมไปทำ ประตู หน้าต่าง โต๊ะ เตียงนอน เป็นต้น

4.ไม้อัด

ไม้อัด หรือ Plywood เป็นไม้คุณภาพที่ดีกว่า ไม้ปาติเกิ้ล และ MDF ในแง่ของความทนทาน แข็งแรง โดยไม้อัดจะผ่านกระบวนการปอกเปลือกชั้นนอกออก หลังจากนั้นนำไปทำให้บาง และอัดเป็นชั้น ๆ จนแน่น และนำไปผสมกับกาวร้อนและกาวเย็นและปิดผิวด้วยเยื่อบุไม้ จุดเด่นของไม้อัดคือแข็งแรงทนทาน ไม่บิดงอได้ง่าย กันปลวกแมลง สามารถกันน้ำได้ในระดับนึง เป็นต้น ส่วนของข้อด้อย คือ ราคาสูงและมีน้ำหนักมาก

5.ไม้แท้หรือไม้จริง

ไม้แท้หรือไม้จริง สามารถแบ่งออกได้ 2 ประเภท คือ ไม้เนื้ออ่อนและไม้เนื้อแข็ง โดยผ่านกระบวนการอาบน้ำยาและการอบแห้ง หลังจากนั้นนำไปผ่านกระบวนการลดความชื้น ก่อนการนำไปใช้งานจริง จุดเด่นของไม้แท้คือ มีลวดลายแบบธรรมชาติ มีอายุการใช้งานยาวนาน

เฟอร์นิเจอร์นั้น เป็นอุปกรณ์ตกแต่งบ้านที่สำคัญอย่างมากสำหรับใครหลาย ๆ คน เพราะนอกจากจะช่วยให้บ้านของเรานั้นดูสวยงามเป็นระเบียบเรียบร้อยแล้ว เฟอร์นิเจอร์บางอย่างยังสามารถช่วยอำนวยความสะดวกสบายในการใช้งานและการดำเนินชีวิตประจำวันให้กับเราได้อีกด้วย ซึ่งเฟอร์นิเจอร์ที่เราใช้งานกันอยู่นั้น สามารถแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มด้วยกัน ได้แก่ เฟอร์นิเจอร์ลอยตัว เช่น โต๊ะทำงาน เก้าอี้ทำงาน เป็นต้น และ เฟอร์นิเจอร์บิวท์อิน ซึ่งเฟอร์นิเจอร์บิวท์อินนั้นจะนิยมสร้างเป็น ตู้โชว์หรือชั้นวางของ แต่ปัจจุบันนั้น มีเฟอร์นิเจอร์อีกรูปแบบหนึ่งที่เป็นกระแสมาแรงและกำลังได้รับความนิยมอย่างมาก นั่นก็คือ เฟอร์นิเจอร์นอคดาวน์

เฟอร์นิเจอร์นอคดาวน์นั้น เป็นการรวมตัวระหว่าง เฟอร์นิเจอร์ลอยตัวและเฟอร์นิเจอร์บิวท์อิน ก็คือโดยปกติหากเป็นการเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ลอยตัว เฟอร์นิเจอร์เหล่านั้นจะถูกประกอบมาจากโรงงานแล้ว พร้อมสำหรับการใช้งานได้เลยทันที แต่หากเป็นเฟอร์นิเจอร์บิวท์อินนั้น จะเป็นการสร้างเฟอร์นิเจอร์ตามการออกแบบของสถานที่และความพอใจนั้น ๆ ของผู้ซื้อ แต่เฟอร์นิเจอร์นอคดาวน์นั้น เป็นเฟอร์นิเจอร์ที่สร้างส่วนประกอบต่าง ๆ มาจากโรงงาน แต่จะมาทำการประกอบหลังจากการซื้อ หรือพูดง่าย ๆ ว่าเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่สามารถประกอบได้ ซึ่งบางชนิดก็สามารถประกอบเองได้ แต่บางชนิดนั้นก็ต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญในการช่วยประกอบ

ข้อดีของการใช้งานเฟอร์นิเจอร์นอคดาวน์คือ ลดปัญหาเรื่องฝุ่นของไม้หรือกลิ่นสีต่าง ๆ เพราะเป็นการผลิตในรูปแบบสำเร็จรูปมาจากโรงงานแล้ว เพียงแค่นำมาประกอบที่บ้านเองเท้านั้น นอกจากนี้ยังช่วยในเรื่องของการขนส่งมที่จะสามารถประหยัดพื้นที่ในการขนส่งและความยุ่งยาก เพราะเฟอร์นิเจอร์นอคดาวน์ส่วนใหญ่นั้นจะแยกชิ้นส่วนลงมาในกล่องใบเดียวเพื่อให้ง่ายต่อการขนย้ายนั่นเอง ไม่เพียงเท่านี้ เพราะเฟอร์นิเจอร์นอคดาวน์นั้น ยังมีการใช้วัสดุมในการผลิตที่หลากหลาย รวมถึงสีสันและรูปแบบที่เราสามารถเลือกให้ตรงกับความชื่นชอบและการใช้งาน ๆ ได้ และหากในอนาคตเราไม่ต้องการใช้งานเฟอร์นิเจอร์นั้น ๆ แล้วก็สามารถอดเพื่อเก็บเข้าห้องเก็บของได้ง่ายมาก

แต่ถึงแม้ว่าเฟอร์นิเจอร์นอคดาวน์นั้นจะมีข้อดีในการใช้งานอยู่มากมายก็ตาม แต่เฟอร์นิเจอร์นอคดาวน์เองก็มีข้อเสียอยู่มากเช่นเดียวกัน เพราะเฟอร์นิเจอร์นอคดาวน์ส่วนใหญ่นั้น จะมีอายุการใช้งานที่สั้นกว่าเฟอร์นิเจอร์รูปแบบอื่น ๆ และการประกอบเฟอร์นิเจอร์บางชนิดนั้นมีขั้นตอนที่ค่อนข้างยุ่งยาก ซึ่งหากไม่ได้ประกอบโดยช่างผู้เชี่ยวชาญก็อาจจะทำให้ความสามารถในการใช้งานหรือรูปทรงของเฟอร์นิเจอร์นั้น ๆ ผิดเพี้ยนไปจากแบบได้ นอกจากนี้เฟอร์นิเจอร์นอคดาวน์ส่วนใหญ่นั้น จะได้รับความนิยมในการใช้ไม้อัดมาเป็นส่วนสำคัญในการผลิต ซึ่งหากมีการใช้งานในการประกอบและถอดออกในความถี่ที่มากเกินไป อาจจะทำให้เฟอร์นิเจอร์นั้นเกิดการสึกหรอและไม่แน่นได้หากประกอบใหม่ในครั้งถัดไป

ไม่ใช่แค่เพียงเฟอร์นิเจอร์นอคดาวน์เท่านั้น แต่เฟอร์นิเจอร์ทุกรูปแบบต่างก็มีข้อดีและข้อเสียหรือข้อจำกัดในการใช้งานเช่นกัน ซึ่งวหากเราเลือกใช้งานเฟอร์นิเจอร์ในรูปแบบต่าง ๆ ให้ตรงกับคุณสมบัติเฉพาะของเฟอร์นิเจอร์นั้น ๆ ก็จะสามารถช่วยในการยืดอายุการใช้งานของเฟอร์นิเจอร์ให้มีอายุการใช้งานเพิ่มขึ้นได้

ปัจจุบันนั้น ไม่ใช่เพียงแค่เฟอร์นิเจอร์เท่านั้นที่ถูกออกแบบและพัฒนามาเพื่อความสะดวกสบายของมนุษย์ แต่ก็ยังมีบ้านนอคดาวน์ที่มีการพัฒนามาสำหรับการขนย้ายและความสะดวกสบายเช่นกัน ถึงแม้ว่าหลาย ๆ คนอาจจะชื่นชอบในความคิดสร้างสรรค์ที่จะทำบ้านนอคดาวน์นี้ เพราะความสะดวกสบายในการขนย้ายบ้านที่มากขึ้น แต่หลาย ๆ คนกลับเห็นถึงปัญหาของความเปราะบางของบ้านนอคดาวน์ด้วยเช่นกัน แต่ไม่ว่าจะเป็นบ้านหรือเฟอร์นิเจอร์ก็ตาม สิ่งที่สำคัญที่สุดในการอาศัยร่วมกันของคนในครอบครัวก็ยังคงเป็นความเข้าใจและใส่ใจกันระหว่างบุคคลอยู่ดี