แม้ว่าโดยทั่วไปแล้วสไตล์การตกแต่งบ้าน หรือที่อยู่อาศัยจะขึ้นอยู่กับรสนิยมส่วนตัวของผู้อยูู่อาศัย กล่าวคือสไตล์ หรือแนวคิดการตกแต่งหลายๆแนวนั้นไม่ได้แปรผันไปตามยุคสมัย แต่ทว่าหากมองในแง่ของประโยชน์ใช้สอยแล้ว ต้องบอกว่ายุคสมัยก็ถือว่ามีส่วนสำคัญต่อการเลือกใช้สอยเฟอร์นิเจอร์ หรือกำหนดฟังก์ชั่นให้กับพื้นที่ต่างๆ เช่นกัน ดังนั้นที่เราจะสังเกตเห็นได้จากบ้านสไตล์ต่างๆ ที่ถูกตกแต่งในช่วงเวลาที่แตกต่างกัน แม้ว่าจะถูกนำเสนอสไตล์ความสวยงามแบบเดียวกัน แต่รายละเอียดการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ หรือฟังก์ชั่นใช้สอยต่างๆก็อาจแตกต่างกันออกไป เนื่องจากตัวเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่ดีที่สุด ที่จะช่วยให้ผู้อยู่อาศัยได้ประโยชน์ใช้สอยจากฟังก์ชั่นใช้งานต่างๆ อย่างเต็มประสิทธิภาพ ณ ช่วงเวลาต่างๆ นั้นแตกต่างกันออกไป ในบทความนี้จึงจะมากล่าวแนะนำกันถึงข้อควรคำนึงในการเลือกเฟอร์นิเจอร์แต่งบ้านในปี 2023 นี้ เพื่อให้หลายคนได้ใช้เป็นแนวทางเลือกหาเฟอร์นิเจอร์ที่จะช่วยตอบโจทย์การใช้งานได้ดีที่สุด และให้ฟังก์ชั่นการใช้งานที่คุ้มค่าครอบคลุมทุกการใช้งาน แมตช์กับยุคสมัยใหม่ได้มากที่สุด
เลือกเฟอร์นิเจอร์ลีฟวิ่งรูมสไตล์สตูดิโอ ในทุกยุคสมัยลีฟวิ่งรูมถือได้ว่าเป็นพื้นที่ส่วนสำคัญมากที่สุดส่วนนึงของบ้าน เพราะมักเป็นพื้นที่ที่คนนอก ไม่ว่าจะเป็นญาติ เพื่อน คนรู้จักที่แวะมาเยี่ยมเยียนได้พบเห็น และใช้สอยเป็นพื้นที่ส่วนแรกๆ ลีฟวิ่งรูมจึงมักจะเป็นพื้นที่ส่วนที่เจ้าของบ้านนำเสนอความสวยงามในสไตล์ที่ตัวเองชื่นชอบ อย่างโต๊ะ เก้าอี้ หรือโซฟาและนำเสนอความภาคภูมิใจผ่านต่างๆ ของสมาชิกในบ้าน ดังที่เราจะสังเกตุเห็นได้ว่าถ้วยรางวัล เหรียญรางวัลจากการแข่งขันใดๆ หรือภาพถ่ายที่เป็นความทรงจำดีๆ ของสมาชิกในบ้านมักถูกจัดวางตกแต่งไว้ในพื้นที่ส่วนนี้ อย่างไรก็ตามด้วยไลฟ์สไตล์ในปัจจุบันของคนยุคดิจิทัลเจนฯ ที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้พื้นที่ส่วนลีฟวิ่งรูมถูกมีประโยชน์ใช้สอยมากกว่าแค่เป็นพื้นที่สำหรับต้อนรับแขก โดยหลายๆคนยังเลือกใช้พื้นที่ส่วนนี้สำหรับเป็นสตูดิโอย่อมๆ ในการถ่ายวิดีโอต่างๆ ลงโซเชียลอีกด้วย ตัวอย่างเช่น บางคนอาจจะมีงานอดิเรกเป็นการสอนภาษาในเวลาว่าง หรือวันหยุด ก็จะใช้เป็นพื้นที่ถ่ายคลิปวิดีโอสอนภาษาสำหรับอัพลงยูทูป เฟสบุ๊ค เป็นต้น ดังนั้นหนึ่งในข้อควรคำนึงถึงหากต้องการเพิ่มฟังก์ชั่นใช้สอยที่ดูทันยุคทันสมัยมากขึ้นให้กับบ้านจึงเป็นการเลือกใช้สอยเฟอร์นิเจอร์สไตล์สตูโอ เป็นเฟอร์นิเจอร์ที่ขึ้นกล้องได้ดี เหมาะสำหรับใช้เป็นแบ็คกราวด์ในการอัดคลิปวิดีโอ หรือถ่ายรายการย่อมๆ ในการตกแต่งพื้นที่ลีฟวิ่งรูมนั่นเอง
เลือกใช้เฟอร์นิเจอร์แบบหลากฟังก์ชั่น/พับเก็บได้ หากย้อนกลับไปช่วงสิบปีก่อน เราอาจจะคุ้นเคยกับเฟอร์นิเจอร์แบบทีมีฟังก์ชั่นใช้งานตายตัว พับเก็บไม่ได้ ซึ่งข้อดีของเฟอร์นิเจอร์เหล่านั้นก็คือฟังก์ชั่นไม่ซับซ้อนเข้าใจง่าย และด้วยความที่ฟังก์ชั่นไม่ได้ถูกสลับสับเปลี่ยนไปมาจึงมักมีอายุการใช้งานเฉลี่ยนานหลายปี แต่ปัจจุบันด้วยไลฟ์สไตล์ของคนเจนฯใหม่ที่มีความยืดหยุ่นมากขึ้น รวมถึงขนาดพื้นที่ของที่อยู่อาศัยโดยเฉลี่ยที่จำกัดมากขึ้น จึงทำให้เฟอร์นิเจอร์แบบฟังก์ชั่นเดี่ยวดูจะไม่สามารถตอบโจทย์ได้ดีเหมือนที่เคยเป็นมา แบรนด์ผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์เจ้าดังหลายๆ แบรนด์จึงพัฒนาสินค้าแบบหลากฟังก์ชั่น สามารถสลับฟังก์ชั่นใช้งานได้ตามความต้องการมากกว่า 2 ฟังก์ชั่นขึ้นไปออกมาวางจำหน่าย ตัวอย่างเช่น โต๊ะกลาง(สำหรับวางคู่โซฟา)ที่สามารถพับเก็บให้กลายเป็นตู้ข้างเตียงได้ เป็นต้น ซึ่งเฟอร์นิเจอร์หลากฟังก์ชั่นดังกล่าวนี้ถือว่าเป็นตัวช่วยสำคัญที่จะช่วยให้เราสามารถใช้สอยพื้นที่บ้าน หรือที่อยู่อาศัยของเราได้เต็มประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยให้เราเซฟงบในการตกแต่งได้ดีอีกด้วย

เทรนด์ของ เฟอร์นิเจอร์ นั้นมีการปรับเปลี่ยนอยู่เสมอ เป็นไปตามรสนิยมแห่งกาลเวลาและลักษณะการใช้งานของคนแต่ละยุคสมัย นั่นหมายถึงความสนุกของ ดีไซน์ ที่ยังคงออกแบบสิ่งใหม่ ๆ
อย่างต่อเนื่องให้เลือกซื้อและเลือกสรรได้อย่างเพลิดเพลิน นอกจากนี้ยังมีเรื่องของวัสดุ ที่มีการพัฒนาอยู่เสมอ ไม่เพียงแต่จะตอบโจทย์ของประสิทธิภาพการใช้งาน แต่ยังมีรูปแบบของเฟอร์นิเจอร์ ที่จัดการในด้านความคงทน ความให้สัมผัสที่ผ่อนคลาย รวมถึงยังจัดแบ่งเกรดได้มากขึ้นในกรอบที่ทำให้ได้คุณภาพดีที่สุด เพื่อมีราคาที่ยืดหยุ่นรองรับความต้องการได้หลากหลายงบประมาณ
โดยเฉพาะเฟอร์นิเจอร์ประเภทที่ใช้สำหรับสถานที่ประกอบธุรกิจ
เช่นใช้ในสำนักงานและออฟฟิศต่าง ๆ อย่าง โต๊ะ เก้าอี้ ก็จะสอดคล้องกับรูปแบบของแหล่งประกอบการ
ที่ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงซึ่งมีวงการที่เป็นสายงานยุคใหม่อยู่มากมายแตกแขนงกันไป
นอกจากนี้ในเรื่องของขนาดพื้นที่ซึ่งจะนำ เฟอร์นิเจอร์ไปใช้งาน ก็จะแตกต่างกันด้วยเช่นกันเพราะต้องรองรับในทุกขั้นของแหล่งประกอบการ เช่นกิจการบริษัทที่มีทั้งบริษัทขนาดเล็ก ที่ต้องการเฟอร์นิเจอร์ซึ่งให้ความเรียบง่ายคล่องตัว หรือควบคุมงบประมาณได้ สามารถรองรับการใช้ในพื้นที่ซึ่งมีการใช้สอยอย่างชาญฉลาด และมีสไตล์
ไปจนถึงบริษัทขนาดใหญ่ ที่ต้องการเฟอร์นิเจอร์ ซึ่งตอบโจทย์ของการใช้งานจากลูกค้าและผู้ติดต่อธุรกิจ รวมไปถึงบุคลากรที่มีจำนวนมาก หรือมีการจัดประชุม ที่ต้องการความโอ่อ่าเป็นหน้าเป็นตาส่งเสริมภาพลักษณ์อย่างเช่นโซฟาหรือโต๊ะประชุม

นอกจากนี้การใช้งานสำหรับในที่พักอาศัย ก็มี ดีไซน์ ในรูปแบบที่สอดคล้องกับชีวิตยุคใหม่ด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการเลือกใช้รูปแบบของ เฟอร์นิเจอร์ ที่ให้ความสะดวก
ไม่ว่าในด้านการเป็น home office หรือเพื่อการพักผ่อนและกิจกรรมต่าง ๆ ก็มี เฟอร์นิเจอร์ ที่มีการพัฒนาในหลายแง่มุมด้วยเช่นกัน อาทิ การออกแบบให้สอดคล้องรองรับได้กับสรีระที่ให้ความผ่อนคลาย หรือจะเป็นการออกแบบที่ให้ความอเนกประสงค์ ประยุกต์ใช้งานได้หลากหลายและเคลื่อนย้ายได้ง่ายมีน้ำหนักเบาให้ความสะดวกเป็นต้น
อีกทั้งยังมีรูปแบบของเฟอร์นิเจอร์ ที่กลุ่มตลาดมีความต้องการสูงอย่างเช่นกลุ่มสถานประกอบการร้านอาหาร ซึ่งมีการแข่งขันกันอย่างเข้มข้น และแน่นอนว่ารูปแบบ ดีไซน์ ของเฟอร์นิเจอร์นั้นย่อมส่งผลในการดึงดูดความสวยงามของร้านจะช่วยเพิ่มพลังให้กับองค์ประกอบโดยรวม หรือเรียกได้ว่าเฟอร์นิเจอร์ ที่ดีจะให้ผลประกอบการธุรกิจที่ดีตามมานั่นเอง
ทั้งนี้ก่อนการเลือกซื้อ เฟอร์นิเจอร์ ก็ควรจะมีการวางแบบแผนเอาไว้ก่อน โดยคำนึงถึงรูปแบบของพื้นที่ห้องที่จะนำไปใช้ รวมไปถึงกิจกรรมที่มักเกิดขึ้นภายในห้อง ก็จะสามารถนำไปประเมินได้ในเรื่องของ รูปทรงและขนาดของ เฟอร์นิเจอร์ ซึ่งบางพื้นที่อาจมีความต้องการ เฟอร์นิเจอร์ ที่เคลื่อนย้ายได้ แต่ในบางพื้นที่อาจจะต้องการ เฟอร์นิเจอร์ ที่คงทนแข็งแรงมีขนาดใหญ่ ไม่มีการเคลื่อนย้ายบ่อย
ที่สำคัญ การประเมินถึงผลกระทบ อาทิ มลภาวะ หรือการใช้สอยในเชิงต้องรับบทหนักจากโอกาสการเกิดภาวะกระทบกระเทือน ก็เป็นอีกเงื่อนไขในการเลือกความคงทนของวัสดุที่ใช้ผลิตเฟอร์นิเจอร์ ซึ่งหากผลกระทบมีไม่มากก็สามารถเลือกซื้อประเภทที่ใช้วัสดุ แบบเน้นความเบา
และความสวยงามได้ แต่หากผลกระทบอาจมีมากก็อาจจำเป็นจะต้องขยับ ไปเลือกใช้วัสดุที่เน้นความแข็งแรง โครงสร้างแน่นหนาแต่ยอมแลกด้วยขนาดและน้ำหนักเพิ่มขึ้น
โดยทั้งหมดนี้ต้องคำนึงไปตามสัดส่วนที่ต้องการ ให้สอดคล้องกับรูปแบบของสภาวะการใช้งาน

แต่ไม่ว่าจะเป็นแบบใดก็แล้วแต่ ก็อาจจะต้องให้ความสำคัญกับเรื่องของอายุการใช้งานของวัสดุด้วย เพราะเฟอร์นิเจอร์บางประเภทอาจจะมีความคงทนแข็งแรง ไม่แตกหักง่าย
แต่อาจมีการสึกกร่อน หรือสีซีดจางมีอายุการใช้งานน้อย
ดังนั้นการเลือกซื้อ เฟอร์นิเจอร์ กับแหล่งขายที่มีคุณภาพ และผลิตอย่างพิถีพิถัน
ใช้วัสดุแบบ พรีเมียม ก็จะช่วยยกระดับความมั่นใจได้ในอีกขั้นหนึ่งนั่นเอง

เฟอร์นิเจอร์นั้นไม่ว่าจะเป็น โต๊ะ เก้าอี้ โซฟา ถือเป็นองค์ประกอบสำคัญภายในบ้าน ที่ช่วยเติมเต็มบ้านให้สมบูรณ์ได้มากยิ่งขึ้น นอกจากที่จะใช้เป็นเครื่องอำนวยความสะดวกแล้ว เฟอร์นิเจอร์บางชิ้นยังมีความสวยงาม มีความงดงาม ดังนั้นจึงใช้เป็นของตกแต่งบ้านชั้นดีได้อีกด้วย แต่ละห้องเราก็จะมีการเลือกการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป หลายคนก็มีปัจจัยในการเลือกที่แตกต่างกันออกไปด้วยเช่นเดียวกัน ทั้งเรื่องที่กล่าวมาข้างต้นคือเรื่องของความสวยงาม การที่เข้ากันได้กับห้อง หรือเข้ากันได้กับบ้านของเรา

และยังมีอีกปัจจัยที่ผู้คนมักจะใช้ในการเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ ซึ่งถือเป็นข้อสำคัญมากที่สุดเลยก็ว่าได้ คือในเรื่องของความแข็งแรงทนทาน เพราะหากเราซื้อแบบที่มีความแข็งแรงทนทาน มันก็จะสามารถอยู่กับเราได้อย่างยาวนาน และเราก็จะรู้สึกคุ้มค่ากับคุ้มราคาที่จ่ายไป ในทางกลับกันหากเราซื้อในแบบที่ไม่แข็งแรงและทนทานมา หากเราใช้ไปไม่นาน ก็อาจจะต้องเปลี่ยนใหม่ แทนที่จะส่งผลดีกับเรา มันกลับจะส่งผลเสียด้วยซ้ำ นอกจากจะต้องเสียเงินเพิ่มแล้ว ยังจะต้องเสียเวลาอีกด้วย ดังนั้นในวันนี้ เราจะชวนคุณมาเลือกเฟอร์นิเจอร์กัน โดยใช้ปัจจัยในเรื่องของความแข็งแรงมาเป็นตัวตั้ง

รู้จุดประสงค์ในการใช้งานก่อน

ก่อนอื่นเรื่องที่เราต้องรู้เป็นอันดับแรกก็คือ จุดประสงค์ในการใช้งานของเรา เราจะซื้อเฟอร์นิเจอร์อย่างโซฟานั้นไปตั้งไว้ในห้องอะไร ห้องนอน หรือห้องรับแขก ซึ่งการตั้งไว้ในแต่ละที่นั้น ลักษณะและจุดประสงค์การใช้งานก็จะแตกต่างกันออกไป นอกจากจะต้องรู้ว่าเราจะเอาไปตั้งที่ไหนแล้ว เรายังต้องควรรู้ขนาดที่แน่นอนของบริเวณที่จะนำไปตั้ง เพื่อจะได้ไม่เกิดข้อผิดพลาดเมื่อเราซื้อไปแล้ว

เรื่องของวัสดุที่ใช้ในการทำ

แน่นอนว่าหากเราคำนึงถึงเรื่องของความแข็งแรงเป็นอันดับแรก สิ่งที่เราควรจะคำนึงถึงมากที่สุด คือวัสดุที่นำมาใช้ในการทำ แน่นอนว่าวัสดุนั้นมีอยู่ด้วยกันมากมายหลากหลายชนิด ยกตัวอย่างเช่นหากเป็นไม้ แน่นอนว่าข้อดีคือได้ในเรื่องของความคงทน แข็งแรง อีกทั้งยังมีความสวยงามแบบคลาสสิก แต่ก็อาจจะเป็นปัญหาสำหรับใครหลายคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการดูแลรักษา หรือหากอยากได้แบบที่เป็นหนัง ก็มีให้เลือกทั้งแบบหนังแท้หรือหนังเทียม ซึ่งหนังแต่ละแบบก็มีความแตกต่างกันออกไปอีก แบบหนังนั่นคือจะได้ในเรื่องของความสวยงาม แต่อาจจะดูแลยากสักนิด ถึงจะอยู่กับเรานานก็ตาม แต่ก็ไม่ค่อยแข็งแรงมากเท่าไหร่นัก หากมองในเรื่องของความแข็งแรงจริง แบบไม้ก็น่าสนใจ หรือหากเป็นแบบเหล็กก็น่าสนใจด้วยเช่นเดียวกัน ถึงความสวยงามจะน้อยกว่าก็ตาม แต่ในเรื่องของความคงทน และความแข็งแรงถือว่ากินขาด น่าจะชนะวัสดุอื่นอีกหลายอันเลยทีเดียว

ร้านค้าที่เราซื้อ

สิ่งนี้ก็เป็นอีกข้อที่เราต้องให้ความสำคัญไม่แพ้เรื่องอื่นเลย และมีความเกี่ยวข้องกับความคงทนแข็งแรงของเฟอร์นิเจอร์ด้วย ควรเลือกซื้อจากร้านขายที่ดูน่าเชื่อถือ ไว้ใจได้ หรือมีการการันตีจากหลายคน อาจจะซื้อจากร้านค้าใหญ่ ที่เราน่าจะเคยได้ยินชื่อกันมามากมาย อย่างน้อยร้านค้าเหล่านี้ ก็สามารถที่จะรับรองเราได้ในระดับหนึ่ง ว่าของที่เราซื้อมาใช้งานได้คุณภาพมาแล้ว อีกอย่างร้านค้าเหล่านี้ ยังสามารถที่จะให้เราทดลองใช้งานได้จริง ซึ่งการทดลองใช้งานเฟอร์นิเจอร์ก่อน ถือว่าเป็นสิ่งที่สมควรทำเป็นอย่างมาก

บริการหลังการขายที่ดี

การเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ที่สำคัญข้อสุดท้าย คือควรจะสอบถามเรื่องของบริการหลังการขาย ร้านค้าที่ดีควรมีบริการหลังการขายที่ดีด้วย เรื่องของประกันสินค้า ก็ควรจะมีด้วยเช่นกัน ควรสอบถามให้แน่ใจว่ามีประกันหรือไม่ หากสินค้าชำรุดสามารถที่จะเปลี่ยนหรือคืนสินค้าได้หรือไม่ ในเรื่องของการจัดส่งและการประกอบสินค้าด้วย เฟอร์นิเจอร์บางชนิดจำเป็นต้องประกอบ ทางร้านค้าประกอบให้ได้หรือไม่ เหล่านี้คือปัจจัยที่ต้องหยิบมาพิจารณาทั้งสิ้น

เฟอร์นิเจอร์ไม้ไม่ว่าจะเป็น ตู้ โต๊ะ เก้าอี้ ชั้นวางของ เป็นเฟอร์นิเจอร์แบบที่จำเป็นที่จะต้องได้รับการดูแลอย่างสะอาดอยู่เสมอ และยังเป็นอีกรูปแบบหนึ่ง ที่ค่อนข้างจะดูแลยากในระดับหนึ่งเลยทีเดียว เราไม่ควรจะทำให้มันเปียกน้ำ ตากแดดมากจนเกินไป เพราะอาจทำให้เกิดปัญหาหลายอย่างได้ หรือหากมันเกิดปัญหาขึ้นแล้ว สิ่งที่เราควรจะทำ คือการซ่อมแซม และหมั่นดูแลรักษาให้ดี เพื่อที่จะได้ไม่เกิดปัญหาเหล่านี้ขึ้นอีก ดังนั้นด้วยเหตุนี้วันนี้ เราจะชวนคุณมาซ่อมเฟอร์นิเจอร์ไม้กัน ว่าเราจะสามารถทำได้อย่างไร วิธีการเหล่านี้เป็นวิธีการที่ง่ายดาย และเราสามารถทำได้ด้วยตัวเอง

การจัดการกับรอยคราบเป็นวง

อาจเกิดขึ้นได้ กับปัญหารอยคราบเป็นวง ซึ่งอาจเกิดจากการโดนน้ำ เป็นเวลานานๆ เมื่อโดนบ่อยๆเข้า ก็อาจจะทำให้มีรอยคราบเป็นวงเหล่านี้ ซึ่งวิธีการในการจัดการกับเฟอร์นิเจอร์ไม้ของเรา อาจจะทำได้โดยการใช้กระดาษซับมันแบบหนา ทำการวางทับเหนือรอยคราบนั้นไว้ จากนั้น ให้เราทำการใช้เตารีด ที่ทำการปรับไฟอยู่ในระดับปานกลาง ไม่ร้อนมากจนเกินไป ถามการนาบไว้ซ้ำหลายๆครั้ง จนกว่ารอยที่ว่านี้จะหายไป หรืออาจจะทำการใช้ผ้า หรือสำลี ทำการชุบด้วยการบูร เพียงเท่านี้เราก็สามารถจัดการกับรอยคราบที่เป็นวงได้แล้ว

รอยขีดข่วน

สิ่งนี้เป็นสิ่งที่อาจเกิดขึ้นได้บ่อยๆ และมันเกิดขึ้นกับเฟอร์นิเจอร์ไม้ของใครหลายคน โดยเฉพาะโต๊ะทำงาน เนื่องจากแต่เดิมแล้วเฟอร์นิเจอร์ไม้เป็นสิ่งที่ค่อนข้างมีความเปราะบาง เพียงแค่มีอะไรมาขูด หรือมันมาสีเพียงนิดหน่อย ก็อาจจะทำให้เกิดรอยขีดข่วน ที่มีความคล้ายกับเล็บแมวข่วน ได้อย่างง่ายดายไม่มากก็น้อย วิธีการในการแก้ไข ก็เป็นวิธีการที่ไม่ได้ยากเย็น และเราสามารถที่จะทำได้เองที่บ้าน คือให้ทำการใช้ผ้าสะอาด จากนั้นนำไปชุบน้ำมันขัดเงา และน้ำมันถูกบริเวณรอยขีด แต่ตอนถูอยากให้ถูกันบ้าง แต่ตอนถูอยากให้ถูบางๆ ไม่จำเป็นที่จะต้องออกแรงมาก มันก็สามารถหายจากการเป็นรอยขีดข่วนได้แล้ว

รอยหยดของน้ำตาเทียน

สิ่งนี้มักจะมีปัญหา กับเฟอร์นิเจอร์ไม้ ที่เป็นในรูปแบบของโต๊ะ ยกตัวอย่างเช่นโต๊ะหมู่บูชา หรือโต๊ะที่ไว้ใช้สำหรับไหว้พระ ปัญหานี้อาจจะเกิดกับเราได้ ว่าน้ำตาเทียนหยดลงมาบนเฟอร์นิเจอร์ของเรา และถึงแม้จะทำการขูดเทียนเหล่านี้ออกแล้ว แต่หลายครั้งมันก็ยังคงเหลือรอยอยู่ วิธีการแก้ไข ให้เราทำการใช้ผ้าชุบน้ำมัน จากนั้นนำมาเช็ดถู เมื่อเสร็จแล้วให้ทำการขัดซ้ำด้วยน้ำยาขัดเงา และเช็ดด้วยผ้าสะอาดให้แห้งภายในทันที

รอยที่เกิดจากความร้อน

รอยที่เกิดจากความร้อน ความร้อนที่ว่าอาจจะมาจากหลายสาเหตุ และหลายปัจจัยด้วยกัน อาจจะเป็นเพราะแสงแดดส่องเป็นเวลานาน ทำให้ไม้ของเราเกิดมีปัญหา หรืออาจเป็นเพราะถูกไฟ หรือถูกความร้อนจริงๆ วิธีการแก้ไข เราสามารถทำได้โดยการใช้น้ำมันมาถู จากนั้นให้เราทำการซับให้แห้งด้วยผ้าสะอาด ทำแบบนี้ซ้ำกันหลายครั้ง คราบที่ว่าก็จะหายออกไปเอง แต่เราอย่าเร่งรีบ เพราะมันจะค่อยๆหายไปอย่างช้าๆ

คราบเปื้อนที่เกิดจากสี

บรรดาสีต่างๆ อย่างพวกสีทาบ้าน เหล่านี้น่าจะเกิดจากอุบัติเหตุ อย่างการที่สี ตกมาใส่เฟอร์นิเจอร์ของเราเช่นตู้เก็บของ ชั้นวางของ วิธีแก้ไขปัญหาจากคราบเปื้อนจากสี คือหากมันยังไม่แห้งสนิท ให้ทำการแก้ไขโดยใช้ผ้าชุบน้ำมัน จากนั้นทำการขัดเงาบริเวณที่สีตก แต่ถ้าสีแห้งแล้ว ให้ทำการใช้น้ำมันสน ทำการชโลมไปบริเวณคราบ จนกว่าคราบจะอ่อนตัวลงและหลุดออกไป จากนั้นให้เราทำการใช้น้ำมันขัดเงา ทำการถูในบริเวณนี้ให้สะอาด

เมื่อพูดถึงงานเฟอร์นิเจอร์ชนิดต่าง ๆ เช่น โต๊ะ ตู้ เตียง ซึ่งถือเป็นองค์ประกอบสำคัญของงานตกแต่งภายในบ้าน อาคารต่าง ๆ นั้น หลายคนคงจะพอทราบกันดีอยู่แล้วว่า ส่วนประกอบหลักๆของตัวเฟอร์นิเจอร์แต่ละชนิดนั้นจะประกอบด้วยส่วนของโครง และพื้นผิว ซึ่งทั้งสองส่วนนั้นไม่จำเป็นต้องใช้วัสดุชนิดเดียวกัน ตัวอย่างเช่น การทำโต๊ะตัวหนึ่งอาจใช้เหล็กทำโครง และเลือกใช้ไม้ทำพื้นผิว หรือท็อปหน้า เป็นต้น ซึ่งการเลือกวัสดุในส่วนของพื้นผิวเฟอร์นิเจอร์นี่เองที่เป็นปัญหาสำหรับผู้ตกแต่ง หรือผู้อยู่อาศัยหลายคน เนื่องจากวัสดุส่วนนี้ถือว่ามีตัวเลือกที่ค่อนข้างหลากหลายกว่าวัสดุส่วนโครง อีกทั้งคุณสมบัติ ข้อดี ข้อเสีย รวมถึงราคาก็มีความแตกต่างกันออกไปด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเฟอร์นิเจอร์ประเภทโต๊ะชนิดต่าง ๆ ซึ่งมีฟังก์ชั่นการใช้งานสัมพันธ์กับการใช้วัสดุพื้นผิวโดยตรง ในบทความนี้จึงจะมาแนะนำเปรียบเทียบให้ได้ทราบกันว่าวัสดุท็อปหน้า หรือที่หลายคนอาจคุ้นเคยกับคำเรียกเฉพาะที่แตกต่างกันไป เช่น ท็อปโต๊ะ ไม้ท็อปนั้น แต่ละแบบมันมีข้อดี ข้อเสียต่างกันอย่างไร
ท็อป MDF ไม้ MDF ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในตัวเลือกมาตรฐานของท็อปหน้าที่นิยมใช้กัน เพราะวัสดุชนิดนี้จะให้ความรู้สึกเหมือนกับได้พื้นผิวของไม้จริง เนื่องจากตัววัสดุนั้นทำมาจากเศษไม้ชนิดต่าง ๆ โดยนำมาผ่านกระบวนการอัดด้วยความหนาแน่นปานกลางจนได้เป็นแผ่นไม้ที่สวยงาม ข้อดีของวัสดุท็อปชนิดนี้ก็คือความสวยงาม และเรทราคาที่อยู่ในระดับย่อมเยา แต่ก็มีข้อเสียตรงที่ความแข็งแรงที่อาจจะอยู่ในระดับปานกลางเท่านั้น หากรับน้ำหนักมากเกินไป วัสดุก็อาจโก่งงอได้
ท็อปเหล็ก วัสดุท็อปหน้าที่ต้องยกให้เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในแง่ของความแข็งแรง หรือการรับน้ำหนักของตัวเฟอร์นิเจอร์ก็คือ เหล็กนั่นเอง อย่างที่ทราบกันดีว่าเหล็กถือเป็นวัสดุยอดฮิตที่ถูกเลือกใช้ทำเป็นโครงของเฟอร์นิเจอร์ชิ้นต่าง ๆ แต่ขณะเดียวกันก็ยังสามารถเลือกใช้เป็นท็อป หรือพื้นผิวได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเฟอร์นิเจอร์ประเภทโต๊ะ ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะทำงาน โต๊ะอเนกประสงค์ โต๊ะอาหาร ซึ่งข้อดีของการเลือกใช้ท็อปหน้าเหล็กก็ตามที่กล่าวข้างต้นว่าเป็นเรื่องของความแข็งแรง ทนทาน ขณะที่ข้อเสียนั้นอยู่ที่ความสวยงามของพื้นผิวธรรมชาติของตัววัสดุที่อาจจะดูไม่สวยงามนักเมื่อเทียบกับวัสดุไม้ อย่างไรก็ตามปัจจุบันการใช้วัสดุเหล็กมาทำเป็นท็อปหน้าเฟอร์นิเจอร์นั้น จะนิยมนำเอาวัสดุแต่งผิว เช่น แผ่นลามิเนตลวดลายต่าง ๆ มาปิดทับอีกที เพื่อความสวยงามและพื้นผิวสัมผัสที่ดีขึ้น
ท็อปหินอ่อน วัสดุอีกชนิดที่อาจจะไม่ได้รับความนิยมมากนัก เนื่องด้วยข้อจำกัดเรื่องของราคา และน้ำหนัก แต่ก็ถือเป็นตัวเลือกของท็อปหน้าที่ดีอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับงานตกแต่งภายในต่าง ๆ ก็คือ ท็อปหินอ่อนนั่นเอง โดยข้อดีของวัสดุท็อปชนิดนี้ก็คือความสวยงามของลวดลายธรรมชาติของตัววัสดุ ความแข็งแรงทนทาน ความสามารถในการรับน้ำหนัก ขณะที่ข้อเสียก็คือเรื่องของราคา และน้ำหนักเราจึงจะเห็นว่าท็อปหน้าชนิดนี้นิยมใช้กับงานตกแต่งเฉพาะส่วน และเฟอร์นิเจอร์บางประเภทเท่านั้น เช่น ชุดโต๊ะ ม้านั่งสำหรับจัดวางกลางแจ้ง เคาน์เตอร์ครัว เป็นต้น อย่างไรก็ตามในหลายๆ กรณีก็ได้มีความพยายามในการดึงเอาความสวยงามของลวดลายวัสดุหินอ่อนมาใช้ในงานตกแต่งต่าง ๆ โดยที่ไม่ได้ใช้ท็อปหน้าของหินอ่อนจริง ๆ ตัวอย่างเช่น เฟอร์นิเจอร์อย่างเคาน์เตอร์ครัวที่บิวท์ด้วยวัสดุไม้ หรือเหล็ก แต่เลือกใช้แผ่นลามิเนตลายหินอ่อนปิดทับ โต๊ะที่ใช้ท็อปไม้อัด หรือเส้นใยกระดาษอัด แต่ปิดทับด้วยลามิเนตลายหินอ่อน เป็นต้น ส่วนวัสดุท็อปเฟอร์นิเจอร์ชนิดอื่น ๆ นอกจากนี้ก็ยังมี แผ่นไม้จริงชนิดต่าง ๆ ซึ่งข้อดี ข้อเสียนั้นก็แตกต่างกันออกไปตามคุณสมบัติของไม้แต่ละชนิด

ไม่ว่าจะบ้านไหนก็ตาม น่าจะมีเฟอร์นิเจอร์ไม้อยู่ในบ้านกันอยู่แล้ว ซึ่งเฟอร์นิเจอร์เหล่านี้ เป็นแบบที่ต้องอาศัยการดูแลอย่างมากเลยทีเดียว ถึงแม้ว่าจะมีเอกลักษณ์โดดเด่น คือเรื่องของความสวยงามอย่างเด่นชัด และสามารถที่จะเห็นได้ในทันที แต่ก็มีจุดที่จำเป็นที่จะต้องดูแลรักษามากเลยทีเดียว เนื่องจากอาจมีความละเอียดอ่อนมากกว่าเฟอร์นิเจอร์แบบอื่นๆ ดังนั้นผู้ที่ใช้งาน จึงควรหมั่นดูแลรักษา โดยเฉพาะในช่วงนี้ ในช่วงที่เริ่มที่จะมีฝนตกหนัก เราก็จำเป็นที่จะต้องดูแลโต๊ะ หรือตู้ของเราเป็นอย่างดี ยิ่งเรานำมันมาตั้งไว้ที่บริเวณกลางแจ้ง และในช่วงหน้าฝนแล้ว ยิ่งจะต้องระวังมากขึ้นไปอีก ดังนั้นในวันนี้ เราจะมาแนะนำวิธีการดูแลเฟอร์นิเจอร์ไม้ ที่ตั้งไว้กลางแจ้งในช่วงหน้าฝน ว่าจะดูแลรักษาอย่างไร ให้อยู่กับเรา และสามารถใช้งานได้อย่างยาวนาน

หากนำเข้าร่มได้ ควรนำเข้าร่ม

วิธีแรกเป็นวิธีการที่ง่ายมากที่สุด และเราสามารถที่จะทำได้เลย ไม่ต้องรออะไรทั้งนั้น หรือไม่ต้องลงทุนเสียเงินเพิ่มแม้แต่บาทเดียว แต่อาจจะเป็นในกรณีที่เราสามารถเคลื่อนย้ายสิ่งนี้ได้ โดยในช่วงหน้าฝน หรืออาจจะเป็นในช่วงที่มีฝนตก เพราะเราสามารถนำสิ่งนี้หลบเข้าร่วมได้ ก็ควรที่จะทำเลยในทันที อย่างน้อยสิ่งนี้ ก็เรียกได้ว่าเป็นการกันไว้ดีกว่าแก้ เป็นวิธีการที่ง่าย ประหยัดเวลา และสะดวกสบายมากที่สุดวิธี หนึ่ง เลยทีเดียว

การเช็ดคราบน้ำฝนหรือสิ่งสกปรก

ต่อไปเป็นวิธีการในการจัดการคราบน้ำฝน และบรรดาสิ่งสกปรกที่อาจเกิดขึ้นในช่วงเวลาหลังฝนตก วิธีการเหล่านี้เราสามารถที่จะกำจัดได้อย่างง่ายดาย โดยอาจที่จะใช้ฟองน้ำ และใช้มายองเนสเพียงเล็กน้อย ซึ่งเป็นสิ่งของที่น่าจะอยู่ในครัวของใครหลายคนอยู่แล้ว ทำการขัดถูรอยบริเวณนั้น หรืออาจจะใช้น้ำยาทำความสะอาด ท่ามกลางเช็ดความสะอาดและขัดเงาบริเวณที่เป็นคราบก็ได้เช่นกัน วิธีการนี้จะเป็นวิธีการช่วยให้เฟอร์นิเจอร์ทั้งดูเงางามเหมือนใหม่ และช่วยในการขจัดรอยขีดข่วนไปด้วยในตัว

การทำความสะอาดที่ถูกต้อง

วิธีการในการทำความสะอาดเฟอร์นิเจอร์ที่ถูกต้อง โดยเฉพาะเฟอร์นิเจอร์ไม้อย่างเช่น เก้าอี้ไม้ เราควรที่จะใช้ไม้ปัดขนไก่ในการปัดฝุ่นออก แล้วทำการใช้ผ้าเนื้อนุ่มชุบน้ำหมาดหมาด ถามการเช็ดซ้ำอีกครั้ง และควรที่จะปล่อยให้แห้ง หากมีรอยเปื้อนที่เป็นรอยฝังแน่น สำหรับที่เป็นไม้เนื้อแข็งสามารถที่จะใช้กระดาษทรายเบอร์ละเอียดขัด และใช้น้ำผึ้งในการทาทับ และอาจจะใช้ผ้าแห้งในการเช็ดอีกครั้ง หากเป็นไม้เนื้ออ่อน เราอาจจะทำได้โดยการใช้น้ำส้มสายชูชุบน้ำอุ่นเช็ดให้ทั่ว ทำการขัดด้วยขี้ผึ้ง เพียงเท่านี้เราก็สามารถดูแลได้แล้ว

การทาพื้นผิวภายนอก

เราอาจจะทำการผ่าพื้นผิวภายนอกของเฟอร์นิเจอร์ของเรา ด้วยผลิตภัณฑ์หรือน้ำยาดูแลผิวไม้โดยเฉพาะ เพื่อที่จะป้องกันสีของไม้ให้มีความคงทน และดูเหมือนใหม่อยู่เสมอ โดยวิธีการทาที่ถูกต้อง คือควรใช้แปรงขนนุ่ม จุ่มน้ำยาดูแลผิวไม้ แล้วจากนั้นทำการทาให้ทั่ว ทิ้งเอาไว้จนแห้งสนิท จากนั้นให้ทำการทาทับอีกประมาณ 2 ครั้ง ปล่อยให้แห้ง แล้วจากนั้นให้ทำการใช้กระดาษทรายในการขัด แล้วทาทับด้วยน้ำยาอีกครั้ง เพียงเท่านี้ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย แต่หากใครไม่มีน้ำยาเคลือบ อาจจะมองหาโลชั่นที่เหลือใช้ เราจะทำการชุบน้ำหมาดๆ จากนั้นทำการบีบโลชั่นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แล้วนำไปเช็ดเฟอร์นิเจอร์ ที่ทำการปัดฝุ่นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จะทำให้ดูเงางาม และฝุ่นเกาะติดอยากไปสักระยะ หนึ่ง และที่สำคัญอาจจะทำการทาน้ำยาขัดเงาหรือสี หรืออาจเป็นสเปรย์กันน้ำเพื่อป้องกันอีกชั้น สิ่งนี้นับว่าเป็นการปกป้องเนื้อไม้จากทั้งแสงแดดและฝน รวมทั้งบรรดามดปลวกด้วย

หากว่าบ้านของเรา เป็นสิ่งที่สะท้อนถึงตัวตนของผู้ที่อยู่อาศัยในบ้านนั้นแล้ว เฟอร์นิเจอร์ที่เราใช้งานอยู่ในบ้านของเรานั้น ก็คงเปรียบเสมือนเสื้อผ้า ที่จะแสดงถึงเรื่องของรสนิยม ความชื่นชอบส่วนบุคคล ความหลงใหลได้ปลื้มในสิ่งของ ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนในบ้านหลังนั้นด้วยเช่นเดียวกัน อีกทั้งบรรดาเฟอร์นิเจอร์ยังเปรียบเสมือนอุปกรณ์สารพัดประโยชน์ ที่จะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้ผู้ที่อยู่อาศัยในบ้านได้มากมายอย่างที่เราคาดไม่ถึงเลยทีเดียว

เนื่องจากเฟอร์นิเจอร์มีอยู่ด้วยกันมากมายหลากหลายรูปแบบ วิธีการดูแลก็ย่อมมีความแตกต่างกันไปด้วย ดังนั้นในวันนี้ เราจะมาคุยกันเรื่องของเคล็ดลับเล็กๆ ในการดูแลเฟอร์นิเจอร์ในบ้านของเราเหล่านี้ ที่มีความแตกต่างกันอยู่มากมาย ให้ดูสวยงามและดูเหมือนใหม่อยู่เสมอ

เฟอร์นิเจอร์ไม้

มาเริ่มกันด้วยแบบที่ยอดนิยมและมีความฮิตอยู่ไม่ว่าจะในยุคไหนก็ตาม นั่นก็คือแบบไม้ ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้ว วัสดุที่ทำมาจากไม้นั้น จะค่อนข้างมีราคาที่สูง มีลวดลายและสีเนื้อไม้ ที่มีความเป็นเอกลักษณ์และสวยงาม สามารถแสดงถึงฐานะของเจ้าของบ้านได้เลยทีเดียว เฟอร์นิเจอร์ไม้ส่วนใหญ่จะเป็นชั้นวางหนังสือ โต๊ะ เก้าอี้

วิธีการดูแลก็คือ เราอาจจะทำการใช้ผ้าแห้งเนื้อนุ่ม ทำการเช็ด หรืออาจจะใช้ผ้าชุบน้ำสะอาดเล็กน้อย ทำการบิดหมาด ๆ แล้วนำไปเช็ดก็ได้ด้วยเช่นกัน หากมีคราบสกปรกฝังแน่น อาจทำการใช้ผ้าชุบน้ำสบู่อ่อน ๆ จากนั้นบิดหมาด ๆ แล้วนำมาเช็ด หากมันฝังแน่นจนเกินไป อาจทำการใช้ผงฟูผสมน้ำ แล้วใช้แปรงสีฟันชุบ นำไปขัดถูก็ได้ด้วยเช่นเดียวกัน และหากมันโดนน้ำหรือความชื้น ให้รีบทำการเช็ดออกให้เร็วที่สุด ปล่อยทิ้งไว้อาจเกิดการพองและการเสียหายได้ สุดท้ายเลยหากมีคราบไขมันเกาะติด อาจจะทำการใช้น้ำส้มสายชูผสมน้ำ แล้วใช้ผ้าเนื้อนุ่มชุบบิดหมาด จากนั้นจึงนำไปเช็ดถูบริเวณที่เป็นคราบก็ได้ด้วยเช่นเดียวกัน

เฟอร์นิเจอร์หนัง

นี่ก็เป็นสิ่งที่หลายคนมีความชื่นชอบ เนื่องจากเรื่องของความสะดวกสบาย ซึ่งเป็นจุดขายหลักเลยทีเดียว หนังที่นำมาใช้อาจจะเป็นหนังสังเคราะห์ ทำการห่อหุ้มด้วยฟองน้ำหรือฟ้องอย่างไว้ด้านใน ทำให้เกิดความนุ่มนวลทั้งเวลานั่งหรือเวลานอนก็ดี อีกทั้งยังอาจมีการเสริมสปริง เพื่อเป็นการสร้างแรงยืดหยุ่น ให้มีความน่าใช้งานเพิ่มมากขึ้นด้วย เฟอร์นิเจอร์ส่วนใหญ่ที่นำเอาหนังมาทำจะเป็นโซฟาหรือเก้าอี้

ส่วนในเรื่องของวิธีการดูแลนั้น หากเป็นการทำความสะอาดในรูปแบบปกติ ให้ทำการใช้ผ้าเนื้อนุ่ม หรือใช้ไม้ปัดขนไก่ ทำการปัดฝุ่นละอองออกให้หมด ส่วนสำหรับรอยคราบจางๆ อาจจะทำความสะอาดได้ โดยการใช้น้ำสบู่อ่อน ๆ ทำการผสมกับน้ำ จากนั้นให้เราใช้ผ้าเนื้อนุ่มชุบน้ำสบู่ดังกล่าว ทำการเช็ดในบริเวณที่เป็นคราบ โดยให้เช็ดแบบที่เบามือ คราบเชื้อราอันเกิดจากหนัง อาจทำการใช้ผ้าชุบน้ำส้มสายชู ผสมกับน้ำเช็ดบริเวณนั้น เพื่อนฆ่าฝังแน่นที่กำจัดได้ยาก ใช้น้ำยาทำความสะอาดสำหรับหนังโดยเฉพาะ และไม่ใช้น้ำยาที่รุนแรงจนเกินไป

เฟอร์นิเจอร์เหล็ก

มาถึงเฟอร์นิเจอร์แบบสุดท้ายที่จะมาแนะนำกัน คือแบบที่เป็นเหล็ก ขึ้นชื่อในเรื่องของความแข็งแรงทนทาน และเหมาะกับการใช้งานอยู่สม่ำเสมอ หรืออาจจะเป็นการใช้งานกลางแจ้ง เพราะเราไม่จำเป็นที่จะต้องดูแลรักษาได้บ่อยนัก แต่ก็ไม่ควรที่จะละเลยจนเกินไป โดยเฉพาะกับโลหะที่ตั้งไว้กลางแจ้ง ที่อาจจะเกิดสนิมได้

หากเป็นฝุ่นละอองที่เกาะติดอยู่ ให้ทำการใช้ผ้าเนื้อนุ่มเช็ด หรือไม้ปัดขนไก่ทำความสะอาด หากเฟอร์นิเจอร์ของเราโดนน้ำ อย่าปล่อยทิ้งไว้นาน ให้ทำการเช็ดออกในทันที เพราะอาจเกิดสนิมได้ หากต้องการใช้ผ้าชุบน้ำทำความสะอาด ก็สามารถทำได้ แต่ต้องเป็นผ้าเนื้อนุ่ม และชุบน้ำบิดหมาด ๆ จากนั้นเช็ดออกให้เร็วที่สุด และหลีกเลี่ยงการใช้น้ำยาทำความสะอาดที่มีฤทธิ์กัดกร่อนรุนแรง เพราะจะทำให้พื้นผิวโลหะเสียหายได้

อย่างที่ทราบกันดีว่าปัจจุบันสไตล์มินิมอลถือได้ว่าเป็นสไตล์การตกแต่งที่ได้รับความนิยมสูงมาก เรียกได้ว่ากลายเป็นตัวเลือกมาตรฐานที่ผู้ตกแต่ง หรือเจ้าของบ้าน ที่อยู่อาศัยแบบต่างๆ นึกถึงเป็นลำดับแรกๆเมื่อต้องการปรับโฉมที่อยู่อาศัยของตนเองไปแล้ว โดยที่ในขั้นตอนของการตกแต่งนั้น หลายคนก็มักจะทราบหลักพื้นฐานในการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์เพื่อให้โทนบ้านออกมามีความมินิมอลกันอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากวัสดุไม้ ไม้เทียม หรือพื้นผิวไม้โทนสีอ่อน การเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้น การจัดวางที่ดูโล่งโปร่งสบาย เป็นต้น จะเห็นได้ว่าหลักการตกแต่งพื้นฐานดังกล่าวนี้จะเน้นโฟกัสไปที่ดีไซน์ หรือหน้าตาของพื้นที่บริเวณนั้นๆที่จะออกมาหลังการตกแต่ง แต่ทว่าในความเป็นจริงแล้วการตกแต่งตามแนวคิดแบบมินิมอลนั้นมีความสัมพันธ์กับฟังก์ชั่นการใช้งาน และไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยอย่างแยกออกจากกันไม่ได้ กล่าวคือสไตล์ตกแต่งแบบมินิมอลนั้นถูกพัฒนามาจากวิถีชีวิต หรือไลฟ์สไตล์แบบเรียบง่าย ซึ่งถือเป็นนิยามความสุขของคนยุคใหม่ ฟังก์ชั่นใช้สอยของเฟอร์นิเจอร์ที่จะถูกนำมาจัดวางตกแต่งในธีมมินิมอลจึงต้องตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์แบบมินิอลด้วยนั่นเอง ในบทความนี้จึงได้นำเอาเทคนิคเลือกฟังก์ชั่นใช้สอยของเฟอร์นิเจอร์แต่ละชิ้นให้ได้ฟังก์ชั่นที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ชาวมินิมอลมาแนะนำให้ได้ทราบกัน
เลือกใช้เฟอร์นิเจอร์แบบซ่อนฟังก์ชั่น หนึ่งในจุดเริ่มต้นของแนวคิดแบบมินิมอลก็คือการมองว่าความเป็นระเบียบเรียบร้อยในการจัดวางสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ ในชีวิตประจำวันนั้นเป็นส่วนหนึ่งของคุณภาพชีวิตที่ดี ซึ่งฟังก์ชั่นใช้สอยที่สามารถตอบโจทย์ในส่วนนี้ได้ก็คือฟังก์ชั่นแบบซ่อน หรือบดบังการมองเห็นสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ ที่ถูกจัดวางไว้นั่นเองบนเฟอร์นิเจอร์อย่าง ตู้ หรือชั้นวางของ กล่าวสรุปง่ายๆ ได้ว่าควรเลือกใช้ตู้ หรือชั้นแบบมีประตูปิด ซึ่งทำให้ไม่สามารถมองเห็นสิ่งของ เครื่องใช้จิปาถะต่างๆ ที่จัดวางไว้เมื่อไม่ใช้งานนั่นเอง
เลือกฟังก์ชั่นแบบเลื่อนเปิด ฟังก์ชั่นในการเปิด-ปิดเฟอร์นิเจอร์ประเภทตู้ หรือชั้นแบบต่างๆ ซึ่งเป็นที่นิยมในบ้านเรานั้นมักจะเป็นแบบดึงเปิดซะเป็นส่วนใหญ่ ตัวอย่างเช่น ประตูตู้ที่เป็นลักษณะดึงที่หมุดประตูเพื่อเปิดออก และดันกลับเข้าไปเพื่อปิด ซึ่งข้อเสียของดีไซน์ฟังก์ชั่นแบบนี้ก็คือเมื่อเปิดใช้งานบานประตูจะกินพื้นที่ใช้ไปด้วย ขณะที่ฟังก์ชั่นแบบเลื่อนเปิด-ปิด ซ้ายขวา บานประตูของตู้ หรือชั้นตัวนั้นๆ จะไม่กินพื้นที่ใช้สอยด้านนอก จึงนับเป็นดีไซน์ฟังก์ชั่นที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์แบบมินิมอลได้ดีกว่า สามารถจัดวางในพื้นที่แคบๆ ได้ลงตัวกว่า
เลือกฟังก์ชั่นแบบผสม อย่างที่ทราบกันว่าสไตล์การตกแต่งแบบมินิมอลนั้นจะเน้นการเน้นจัดวางที่ดูโล่งโปร่งสบาย โดยเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์เท่าที่จำเป็น ซึ่งด้วยหลักการออกแบบดังกล่าวนี้ จึงมักทำให้หลายคนต้องเจอกับปัญหาฟังก์ชั่นใช้งานไม่เพียงพอต่อความต้องการ และแน่นอนว่าหากทำการเพิ่มเฟอร์นิเจอร์เข้าไปก็ย่อมทำให้ความโล่งโปร่งสบายของพื้นที่ถูกลดทอนลงไป ซึ่งเทคนิคที่จะช่วยแก้ไขปัญหานี้ก็คือการเลือกใช้ฟังก์ชั่นแบบผสม หรือเฟอร์นิเจอร์ที่มีฟังก์ชั่นเสริมต่างๆ นั่นเอง ตัวอย่างเช่น ชั้นวางหนังสือที่มีฟังก์ชั่นตู้เก็บของจิปาถะอยู่ด้านล่าง เตียงนอนที่มีลิ้นชักเก็บของซ่อนอยู่ด้านล่าง เป็นต้น อย่างไรก็ตามการเลือกใช้ฟังก์ชั่นแบบผสมนี้อาจจะต้องระมัดระวังเรื่องของดีไซน์ฟังก์ชั่นที่แมตช์กันให้ดีสักหน่อย กล่าวคือเฟอร์นิเจอร์หลายชิ้นที่มีฟังก์ชั่นแบบผสมอาจจะให้ดีไซน์ที่ไม่แมตช์กับสไตล์มินิมอลนั่นเอง ตัวอย่างฟังก์ชั่นแบบผสมที่ควรหลีกเลี่ยงการใช้งานก็อย่างเช่น โต๊ะทำงานที่เสริมฟังก์ชั่นชั้นวางของด้านบน หรือด้านล่างของตัวโต๊ะ เตียงนอนที่เสริมฟังก์ชั่นชั้นวางของบนหัวเตียง เป็นต้น

สิ่งที่น่าสนใจของการตกแต่งบ้านก็คือ เฟอร์นิเจอร์ สามารถที่จะบอกลักษณะของคนที่อยู่อาศัยในบ้านได้อย่างไม่น่าเชื่อ ทั้งรูปแบบของการใช้ชีวิต รสนิยมและความชอบส่วนตัว ดังนั้นการเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์เพื่อจะเข้ามาในบ้านสักชิ้นนั้น จึงเป็นอะไรที่ค่อนข้างมีความสำคัญ และจำเป็นที่จะต้องมีการวางแผน และการตัดสินใจอย่างรอบคอบมากเลยทีเดียว เราจำเป็นต้องระวัง มีข้อจำกัด และข้อควรรู้บางอย่าง เพราะหากเราเลือกเอาเฟอร์นิเจอร์มาถมในบ้านแบบที่ไม่คิด เราอาจจะได้บ้านที่รกและไม่น่าอยู่ก็ได้ ดังนั้นด้วยเหตุนี้วันนี้ เราจะพาคุณมาดู ในเรื่องข้อควรรู้ก่อนที่เราจะเลือกซื้อโต๊ะ หรือซื้อตู้ หรือซื้ออะไรก็ได้เข้ามาไว้ในบ้าน เพื่อที่เราจะได้ไม่เสียใจภายหลัง

คณะควรจะมีความพอดี

สิ่งแรกที่เรามองข้ามไม่ได้โดยเด็ดขาด และห้ามลืมนึกถึงวันเด็ดขาด คือเราควรที่จะวัดขนาดของห้องเสียก่อน เฟอร์นิเจอร์ควรมีขนาดที่เหมาะสมกับห้อง หากมีขนาดใหญ่เกินไป มันจะดูเกะกะ และรกขวางทางอย่างแน่นอน หลายครั้งถึงกับประสบปัญหา ไม่สามารถน้ำมันเข้ามาวางในห้องได้เลยด้วยซ้ำ เพราะไม่ได้วัดขนาดของตัวเฟอร์นิเจอร์ และไม่ได้ทำการสำรวจขนาดของห้องไว้ก่อนการตัดสินใจเลือกซื้อตั้งแต่ตอนแรก ซึ่งนี่อาจจะเป็นปัญหาได้

โทนสีก็ควรจะมีความเข้ากันได้กับห้อง

อันนี้จะค่อนข้างมีปัญหามากเลยทีเดียว หากเราเลือกซื้อผ่านทางช่องทางร้านออนไลน์ ที่เป็นปัญหาบ่อยสุดและชัดเจนคือพวกโซฟา การที่เรามองเห็นสีของโซฟาจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ หรือหน้าจอสมาร์ทโฟนของเรา แน่นอนว่าอาจมีความคลาดเคลื่อนสีอยู่เล็กน้อยบ้าง ดังนั้นทางที่ดี ถึงแม้ว่าเราจะดูจากออนไลน์ก็จริง แต่การที่เราไปดูสินค้าจริงที่หน้าร้านด้วย น่าจะเป็นอะไรที่ดีมากกว่า หรืออาจจะขอตัวอย่างผ้าหุ้มเบาะ ซึ่งอันนี้ในบางบริษัทอาจจะสามารถจัดหามาให้เราได้ แต่การซื้อโดยที่ไม่ดูอะไรเลย อันนี้มีความเสี่ยงสูง

แต่งบ้านตามเทรนด์มากจนเกินไป

โดยปกติแล้ว เทรนด์การตกแต่งบ้าน มักจะมาไวไปไว ยกตัวอย่างเช่นมีอยู่ช่วงหนึ่ง ผู้คนนิยมใช้โซฟาสีแรงๆ สีที่ดูเจ็บๆ ซึ่งเมื่อผ่านไป ก็อาจจะต้องเสียใจภายหลัง เนื่องจากเทรนด์การใช้โซฟาสีนี้ไม่เป็นที่นิยมอีกต่อไป ดังนั้นหากเราต้องการจะซื้อโซฟา หรืออะไรสักอย่าง ให้รอมองหาที่สามารถใช้ได้แบบระยะยาว และให้ความสบาย หากเรายังเลือกไม่ได้ อาจจะปล่อยไว้ก่อนแล้วค่อยตัดสินใจอีกที หรืออาจจะแค่เลือกแบบที่เราชอบ และเหมาะสมกับเรา เท่านี้ก็ได้เหมือนกัน

เลือกให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้งาน

ก่อนที่เราจะเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ชิ้นไหนก็ตาม สิ่งที่สำคัญที่เราควรนึกไว้เป็นอันดับแรกก็คือ มันจะเหมาะสมกับรูปแบบการใช้ชีวิตของคนในบ้านหรือไม่ ยกตัวอย่างเช่นแหกในบ้านมีการเลี้ยงสัตว์ การเลือกโซฟาสีอ่อน อาจทำให้เราเห็นรอยเปื้อนบนโซฟา ที่อาจเกิดจากน้องหมาหรือน้องแมวของเราได้ง่ายมากยิ่งขึ้น หรืออาจจะเป็นจุดเล็กๆอีกจุด อย่างการเลือกโต๊ะกินข้าว อาจจะเลือกขนาดให้พอดีกับสมาชิกในครอบครัวของเราก็ได้

อย่าเลือกเฟอร์นิเจอร์ราคาถูกจนเกินไป

เฟอร์นิเจอร์ราคาถูกนั้นก็ดี แต่หากราคาของมันถูกจนเกินไป หลายครั้งอาจจะทำมาจากวัสดุคุณภาพต่ำ และท้ายที่สุดแล้ว เราก็ต้องเสียเงินในกระเป๋า กับค่าซ่อมแซมมันอีกทีหนึ่ง หรือหากร้ายกว่านั้น เราอาจจะต้องซื้อเฟอร์นิเจอร์ไม้เลยก็ได้ ดังนั้นด้วยเหตุนี้ ให้มองเป็นการลงทุนระยะยาวไปเลย การหาของที่มีคุณภาพดี และเหมาะสมกับงบประมาณมาใช้งานเลย น่าจะเป็นอะไรที่ดีมากกว่า